โสดดีหรือมีคู่ : ผ่องไพรธรรม กล้าจน

ผ่องไพรธรรม กล้าจน ( ป้อม ) อายุ 49 ปี รู้จัก พวธ. มา 7 ปี สถานะ โสดสนิท

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
ใครๆเขาก็มีคู่การมีคู่เป็นเรื่องปกติ รู้สึกว่าเราเป็นคนที่ไม่ปกติที่ไม่มีคู่ แต่ก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเห็นครอบครัวของตนเองที่พ่อแม่ไม่ค่อยอบอุ่นไม่ค่อยสามัคคีกัน การมีครอบครัวเห็นตัวอย่างครอบครัวพี่สาวก็ไม่อบอุ่นเหมือนกัน คิดว่าถ้าเรารักคู่เรามากเราก็ห่างมากถ้าเราชังกันมากเราก็โกรธแค้นมาก ก็ทุกข์เป็นที่สองไม่เห็นมีสุขตรงไหน

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
รู้สึกว่าตนเองโชคดีก็เรามีคู่เราก็มีภาระมากมาย ไม่อิสระ ยามรักกันมันก็ดีหรอกแต่ใครจะไปรู้ว่าวันข้างหน้ามันจะเหมือนเดิมไหม การไม่มีคู่ทำให้เรามีอิสระไปทำประโยชน์ต่างๆได้มากมาย ถ้าเรามีคู่เราก็ห่างแก่คู่

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ฝึกการพึ่งตนเองไม่ได้หวังความช่วยเหลือจากผู้อื่นเป็นการพึ่งตนเองช่วยตนให้พ้นทุกข์

โสดดีหรือมีคู่ : เอมอร แซ่ลิ้ม

เอมอร แซ่ลิ้ม ( เอม, ขวัญดินไพร ) อายุ 50 ปี หย่าร้าง, รู้จัก พวธ. มา 9 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เห็นทุกข์จากคนคู่ของพ่อแม่แต่ก็ยังมีความเข้าใจว่ามีคู่ย่อมดีกว่าอยู่คนเดียวอย่างน้อยตอนมีอายุก็ยังมีคนช่วยดูแล จึงหลงไปมีคู่ถึงแม้นจะได้คู่ครองที่ดีแต่ก็รู้สึกถึงการขาดความอิสระ ความผูกพัน และความยึด

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
เป็นโสดย่อมดีกว่ามีคู่แต่เมื่อมีแล้วเราก็เพิ่มอธิศีลของตนเองและทำดีที่ทำได้กับคู่ครองเพื่อลดวิบากคนคู่ของตน

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ประพฤติเป็นพรหมจรรย์ให้ความช่วยเหลือเกื้อกูลกันตามสมควร

โสดดีหรือมีคู่ : เนาวรัตน์ กระโจมทอง

เนาวรัตน์ กระโจมทอง ( อ้อม , เกื้อร่มศีล ) อายุ 56 ปี หม้าย รู้จัก พวธ. มา 15 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
ก็ต้องมีคู่ดีจะได้มีเพื่อนหรือคู่คิดต้องมีลูกสืบทอดสกุล

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
หลังจากพบแพทย์วิถีธรรมแล้วได้ฟังธรรมะจากอาจารย์แล้วก็ได้รู้ว่าการมีคู่นั้นมันเป็นลาภเลว สุขนิดเดียวแต่ทุกข์ทั้งชีวิตเมื่อคิดตามแล้วก็เห็นความจริงตามความเป็นจริง ว่าการมีคู่และครอบครัวทางโลกนั้นเป็นทุกข์จริงๆทั้งพ่อบ้านและลูกๆ

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
การปฏิบัติก็คือการเป็นโสดมีศีล 5 หรือ ศีล 8 งดเว้นการเสพคนคู่และตนเองไม่ผิดศีลข้อ 3

โสดดีหรือมีคู่ : แก่นเกื้อ นาวาบุญนิยม

แก่นเกื้อ นาวาบุญนิยม ( ต่อน ) อายุ 60 ปี สถานะ โสดสนิท รู้จัก พวธ. มา 14 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
ไม่คิดแต่งงานมาก่อนอยู่แล้วเพราะเห็นทุกข์จากชีวิตคนคู่อื่นๆ

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
ยิ่งชัดในความทุกข์ของคนคู่

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ปฏิบัติศีลพรหมจรรย์ ตัดกิเลส เพิ่มศีล เพิ่มตบะ ลด ละ กิเลสในอาหาร เลิกกินขนมหวาน ล้างความชอบชังในจิตวิญญาณมากที่สุด ลดความทุกข์ในจิตวิญญาณมากไปพอสมควร ยกระดับจิตวิญญาณขึ้นมาจากกองทุกข์พอประมาณในชีวิตที่เหลืออยู่

โสดดีหรือมีคู่ : สำเริง สมอหมอบ

สำเริง สมอหมอบ ( นาง, ร้อยใจจน ) อายุ 59 ปี สมรส รู้จัก พวธ. มา 4 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เคยคิดว่าเป็นวงจรของชีวิตมนุษย์ที่เด็กเรียนหนังสือโตขึ้นทำงานแต่งงานสร้างครอบครัว เลี้ยงลูก ทำงานจนเกษียณ(รับราชการเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในสังคมตอนนั้น) แล้วก็แก่ และตาย จึงคิดว่าชีวิตมีเพียงเท่านั้นหรือแล้วที่เคยพบเจอบ่อยๆคือ ผู้ชายมักจะมีแฟนภรรยาหรือกิ๊กหลายคน แต่ผู้หญิงทำแบบนี้ไม่ได้

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
รู้ว่าเป็นวิบากกรรมร่วมกันถึงได้มาเจอกัน แล้วก็ต้องดูแลกันไปจนแก่เฒ่าและตายจากกันหรือมีอันต้องพลัดพรากจากกันไปตามวิบาก และเราต้องซื่อสัตย์ต่อกันเป็นมิตรต่อกัน พากเพียร ทำดี ละชั่ว และทำจิตใจไร้ทุกข์ จะช่วยให้วิบากนั้นๆลดน้อยลงได้และคิดว่าชีวิตคู่ การเลี้ยงลูกเป็นภาระที่ยากเป็นวิบากร่วมกันโดยแท้จริง ที่ต้องยอมรับและทำให้ดีที่สุด

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
การที่ได้แต่งงานแล้วและอยู่ร่วมกันได้คุยกันแบบตรงไปตรงมาว่าเราขอปฏิบัติพรหมจรรย์ เราจะอยู่ด้วยกันอย่างพรหม อย่างเพื่อน และเขาก็ควรปฏิบัติเหมือนกันไม่ควรจะนอกใจเพราะจะทำให้ศีลด่างพร้อยจะมีวิบาก เมื่อเขาเข้าใจและยอมรับได้จึงทำให้เราสามารถปฏิบัติอยู่ด้วยกันแบบพรหมได้ แล้วได้ให้แนวคิดกับลูกว่าการมีคู่นั้นเป็นความคิดไม่สัมมาทิฏฐิให้หนังสือไปอ่านเพื่อการดำรงชีพเรา

โสดดีหรือมีคู่ : จิตตรึงธรรม กล้าจน

จิตตรึงธรรม กล้าจน ( นึก ) อายุ 57 ปี หย่าร้าง, รู้จัก พวธ. มา 4 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
ช่วงแรกของชีวิตไม่เคยคิดจะมีครอบครัวจนอายุได้ 30 กว่าปีเหมือนวิบากจะให้ได้เรียนรู้จะได้เข้าใจเรื่องคนคู่ก็ได้มีครอบครัวอยู่กันได้ 8 ปีในกรุงเทพในปี 2546 คุณแม่ป่วยอยู่ที่โคราชป่วยหนักจึงลาออกจากงานไปอยู่ดูแลคุณแม่ หลังจากไปอยู่ดูแลคุณแม่ 3 เดือน สามีก็ขอหย่า

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
เมื่อหย่าร้างกับสามีแล้วไม่คิดเรื่องมีคู่อีกแต่ก็มีผู้ชายรุ่นน้อง นิสัยดี ฐานะดีเข้ามาให้รู้จักจนในปี 2557 ได้มาเข้าค่ายหมอเขียว อาจารย์ พูดเรื่องโสดหรือมีคู่ ก็ประทับใจเลยว่า ชีวิตโสดดีที่สุด แม้ชีวิตคู่ที่ผ่านมาจะไม่ได้ทุกข์อะไรมากเพราะสามีก็เป็นพ่อบ้าน ทำอาหาร ทำงานบ้านเป็นส่วนมาก

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
เมื่อได้เข้ามาปฏิบัติธรรมบำเพ็ญกับหมู่มิตรดี วิบากเข้ามาทดสอบให้ได้ล้างเรื่องคนคู่ คือ อาเล็กแก่นศีลได้รับบาดเจ็บมาแผลน่ากลัวได้เห็นรูปแล้วรู้สึกเป็นห่วงเหมือนเคยห่วงสามี ปรึกษาอาจารย์ อาจารย์ถามว่าอยากไปดูแล อยากไปครอบครองมั้ยก็บอกว่าไม่ อาจารย์เมตตาบอกว่าให้ล้างสัญญาเก่าด้วยการคิดแบบเนกขัมมะ ก็พยายามพากเพียรล้างได้สำเร็จจบเรื่องคนคู่ ขอครองชีวิตโสดดีที่สุดตลอดไป

โสดดีหรือมีคู่ : อัญชลี กุศลสถิตย์

อัญชลี กุศลสถิตย์ ( จิ๋ม, แก้วผาพลอย ) อายุ 61 ปี สมรส รู้จัก พวธ. มา 4 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
การใช้ชีวิตตามโลกโลกีย์เชื่อว่าผู้หญิงต้องมีคู่ เพราะเห็นคนอื่นแต่งงานกันเหมือนกับว่าเป็นปกติที่ผู้หญิงได้แต่งงานแล้วสมบูรณ์ จึงเลือกที่จะมีคู่ไว้ตามแบบลิงลมอมข้าวพองเมามึนไปตามกระแสโลกีย์แต่เริ่มเห็นทุกข์แล้วว่าไม่น่าแต่งงานเลย

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
เมื่อได้ฟังอาจารย์พูดเรื่อง ลาภเลว ทำให้เข้าใจทันทีว่าคนทั่วไปว่าได้คู่ได้ลูกเป็นสุขเพราะพยายามหาคู่กันแต่ชัดว่าการมีศีล 8 คือได้ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมดีก่วาศีล5 จึงเริ่มปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เราต้องสร้างกุศลไว้เป็นเข็มทิศนำในการใช้ชีวิต

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร
เมื่อประจักษ์ใจแล้วว่าโสดดีกว่ามีคู่ จึงวางใจในความยึดมั่นถือมั่นว่าจะต้องครองคู่จนตายจากกัน ทำข้อตกลงกันว่าขออนุญาตออกไปสร้างกุศล เป็นจิตอาสาเพื่อสร้างกุศลพึ่งตนและช่วยคนต่อไปเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ทุกคนต้องพึ่งความดีที่เราทำมา สุขทุกข์อยู่ที่ต้องทำมาทั้งหมด

โสดดีหรือมีคู่ : ปริญญ์ ขวัญเชื้อ

ปริญญ์ ขวัญเชื้อ ( น๊อต ) อายุ 23 ปี รู้จัก พวธ. มา 2 ปี

5. ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
สมัยก่อนก็อยากมีแฟนเหมือนคนทั่วไปแต่พอได้เห็นเพื่อนเขามีกัน มันก็รู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่เพราะเห็นเพื่อนให้ความสำคัญกับความรักมากไปยึดติดความรักมากไปจนเริ่มคิดว่ามันไม่ใช่ล่ะ โดยส่วนตัวก็มีหวั่นไหวอยู่บ้างและเป็นคนชอบผู้หญิงที่โสดแต่ได้แค่ชอบอย่างเดียวเพราะถ้าเราไปมีแฟนกับเขา เขาก็จะไม่โสดและเราก็จะไม่ทำอะไรกับคนอื่นเลยก็เลยประคองตนเองมาถึงทุกวันนี้และเราได้เห็นความทุกข์ ของครอบครัวมาเยอะมากจากคนอื่น

6. หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
หลังพบแพทย์วิถีธรรมและอาจารย์หมอเขียวก็ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เราประคองความโสดของตัวเองมามันถูกแล้ว แล้วทำให้รู้ว่าโสดอย่างเดียวไม่พอเพราะต้องลดกิเลสในเรื่องนี้ให้มันละเอียดให้ถึงที่สุด เพราะว่าสมัยก่อนเราเป็นคนไม่ชอบคนเจ้าชู้ บ้าผู้หญิงมากและเคยได้ฟังอาจารย์บอกว่าถ้าเราเกลียดเรื่องอะไรมากแสดงว่าแต่ก่อนเราเป็นเช่นนั้นมาเหมือนกันเมื่อได้มาพบกับธรรมอาจารย์บวกกับความโสดของตัวเราที่ประคองมาทำให้เรามีความรอบคอบและไม่ประมาทในเรื่องนี้

7. มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ถ้าไม่จำเป็นอะไรก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเพศตรงข้ามเลย แต่ถ้ามีเหตุที่ต้องมีการทำงานร่วมกันก็อยู่กันเป็นหมู่กลุ่มหลายคนเพราะจะได้ช่วยดึงกันและทิ้งตนอยู่ในความไม่ประมาท สัมรวมตัวเองกำจัดความคิดฟุ้งซ่านให้ได้มากที่สุดตามฐานของตนเองไปตามลำดับ

โสดดีหรือมีคู่ : พีรพงษ์ จันดี

พีรพงษ์ จันดี ( ชื่อเล่น:ต๋อง ชื่อทางธรรม:ริมเขา โบยบิน ) อายุ 39 ป้ รู้จัก พวธ. มา 5 ปี สถานะ โสดสนิท

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เป็นเรื่องปกติของโลกที่ต้องมีคู่ครอง เพื่อก่อตั้งเป็นครอบครัวรวมกัน ความรักที่สมบูรณ์แบบนั้นต้องมีคู่ครองแล้วรวมกันก่อตั้งสร้างตัวรวมกันเติมเต็มให้กัน มีบ้าน มีรถและมีญาติทางสายเลือดลูกหญิงลูกชายไว้สืบสกุลดูแลยามแก่เฒ่าเจ็บป่วย จึงมองเป็นเรื่องที่มนุษย์นั้นต้องมีคู่ครองก่อนถึงวัยอันควรลาจากโลกนี้ไป

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
พบความจริงของสัจจะทำที่แท้จริง คือ กองทุกข์กองกิเลสของเค้าของเรามารวมกันในความอยากตอบสนองความต้องการของตนเองนั้นเอง จริงคือเรื่องของกามราคะความหลงความชอบเป็นความรักแบบหยาบมีคำกล่าวของพระพุทธองค์ว่า ผู้ขวักไขว่ในคู่ย่อมเศร้าหมอง แต่ผู้ทำตัวเป็นบัณฑิตย่อมเป็นผู้เจริญพบความสุขที่แท้จริง คือความรักสิบมิติ

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร
ให้ของเป็นเรื่องความรักที่แท้จริงคือ ความรักสิบมิติที่พ่อครูสมณะโพธิ์รักษ์ได้กล่าวคำสั่งสอนไว้ ความรักแค่คนสองคนคือความรักที่เห็นแก่ตัวทั้งคู่เท่านั้น แต่ความรักสิบมิตินั้นคือความรักที่เสียสละอันยิ่งใหญ่คือความรักที่ไม่มีการกีดกันในทุกชนชั้นเป็นความรักที่มอบให้แก่ทุกคนเท่ากันไม่นึกถึงแต่ตนเองคนรักครอบครัวพี่น้องแต่เป็นความรักที่สามารถให้ทุกคนในโลกใบนี้ได้นั้นคือความรักที่แท้จริง

โสดดีหรือมีคู่ : ชัยภัทร ชุติคามี

ชัยภัทร ชุติคามี ชื่อเล่น เชย์ ชื่อทางธรรม ทุ่มโถมธรรม อายุ 29 ปี รู้จัก พวธ. มา 5 ปี สถานะ โสดสนิท

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
การมีคู่เป็นเรื่องจำเป็น ทำให้เรามีคนคอยดูแล ห่วงใย เอาใจใส่ไปจนแก่เฒ่าทำให้เรามีเพื่อนคู่คิด ทำให้เราไม่เหงา แต่พอมีจริงกลับพบว่าทำให้เราต้องแบ่งเวลาไปดูแลเอาใจใส่เขาต้องคอยเอาอกเอาใจเขา อยากให้เขาได้ดีและก็มีแต่ความไม่สบายใจแต่ก็ออกไม่ได้เพราะนึกถึงช่วงเวลาดีที่เราเคยมีให้กันและกันอยู่ก็เสียดาย

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
ช่วงมาพบแพทย์วิถีธรรม ก็เป็นช่วงเพิ่งเลิกกับแฟน และกำลังคิดที่จะมีแฟนใหม่แต่ก็ได้มารู้ว่าการมีคู่มันก็มีแต่ได้สมใจเป็นสุข พอไม่ได้สมใจกันก็เป็นทุกข์เท่านั้น ก็ทำให้เราได้ใคร่ครวญไตร่ตรองตามก็เห็นจริงอย่างนั้น แท้ที่จริงแล้วการอยากมีคู่เราไม่ได้อยากให้เขาได้ดีหรอกแท้จริงแล้วเราอยากจะเอาดีจากเขาอยากได้ความสมใจจากเขาต่างหาก

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
พิจารณาโทษของการมีคู่ว่าทำให้เรายึดมั่นถือมั่นว่าเราจะต้องได้ดีสมใจ ทำให้เราทุกข์ใจและเขาก็ทุกข์ใจ เป็นการทำร้ายทั้งเราและเขาและสองคือพิจารณาจากประโยชน์การเป็นโสดว่าทำให้เรามีโอกาสล้างความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องคนคู่การจะเอาความได้สมใจจากคนอื่นและที่สำคัญคือ ทำให้เรามีโอกาสหรือมีอิสระในการทำความดีช่วยเหลือผู้อื่นและลดกิเลสในเรื่องอื่นมากขึ้น