โสดดีหรือมีคู่ : จงกช สุทธิโอสถ

จงกช สุทธิโอสถ

นางจงกช สุทธิโอสถ ชื่อเล่น ย่านาง เพศ หญิง อายุ 71 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ สวนป่านาบุญ 9 เคยมีคู่ แต่คู่เสียชีวิตแล้ว รู้จักแพทย์วิถีธรรม 8 ปี ปฎิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรม 12 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
มีคู่ดี มีเพื่อนคู่คิด ทำอะไรก็มีคนช่วย บางครั้งคิดเหมือนกันก็ถูกใจ เอาใจกันและกัน บางครั้งความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็เถียงกันต่างคนต่างเฉย ดูท่าทีซึ่งกันและกัน บางครั้งเราขี้เกียจไว้ท่าทีนานก็คุยกับเขาก่อน แล้วก็ดีมีความเข้าใจกันอีก เป็นอย่างนี้ไปๆมาๆ จะมีดีกรีของความเบาหรือแรงอยู่ที่ต่างฝ่ายต่างคิดว่าสำคัญสำหรับตัวเองประมาณไหน
หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
ก็ได้เห็นความจริงว่าที่เราต้องมีคู่เพราะเรามีวิบากกรรมต้องชดใช้ให้คู่จนกว่าต่างฝ่ายต่างชดใช้กันจนเหลือน้อยที่สุดเท่าที่แต่ละฝ่ายเข้าใจความจริงแท้ในเรื่องคู่ การเข้าใจก็จะสลัดออกไม่อยากเกี่ยวข้องกับความลวงที่เราเข้าใจผิดกันมาตลอด
มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
เมื่อกลับมาเป็นคนโสดสนิท ก็ดีที่สุดแล้ว ไม่ขอกลับไปมีคู่อีก

โสดดีหรือมีคู่ : ณัฐนิชา คำปาละ

ณัฐนิชา คำปาละ

ณัฐนิชา คำปาละ ชื่อเล่น:ณัฐ ชื่อทางธรรม:ศีลผ่องใส เพศ:หญิงอายุ:49 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ:สวนป่านาบุญ 8 สถานภาพ:โสดแต่เคยมีแฟน
รู้จักและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมาแล้วเป็นระยะเวลา:7 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
โสดมีอิสระมากกว่ามีคู่​ มีความทุกข์น้อยกว่า
หลังพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
โสดเป็นผู้มีบุญ
ท่านมีการปฏิบัติต่อไปอย่างไร?
ปฏิบัติอธิศีลรักษาพรหมจรรย์

โสดดีหรือมีคู่ : ฟ้าปลื้ม ศรีจันทร์

ฟ้าปลื้ม ศรีจันทร์

ฟ้าปลื้ม ศรีจันทร์ ชื่อเล่น:ตุ่ง เพศ:หญิงอายุ:51 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ:สีมาอโศก,สวนป่านาบุญ1 สถานภาพ:โสดสนิท
รู้จักและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมาแล้วเป็นระยะเวลา:10 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เป็น บัณฑิตที่แท้จริง
หลังพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
บัณฑิตที่แท้จริง เข้าสู่นิพพานได้ง่ายกว่าคนมีคู่
ท่านมีการปฏิบัติต่อไปอย่างไร?
ต้องเพิ่มอธิศีลให้กับตัวเอง และสานกับหมู่มิตรดี

โสดดีหรือมีคู่ : สุเมธ พรหมรักษา

สุเมธ พรหมรักษา

สุเมธ พรหมรักษา อายุ 63 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ:สวน 8 ภูผาฟ้าน้ำ สถานภาพ:สมรส ปัจจุบันอยู่กันอย่างพรหม
รู้จักและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมาแล้วเป็นระยะเวลา:9 ปี

การอยู่ร่วมกับผู้อื่น มันอยู่ได้โดยหลายๆรูปแบบ อย่างเช่น เป็นเพื่อนกัน เป็นพี่น้องกันเป็นครู เป็น ลูกศิษย์ ฯลฯ โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องใช้คำว่าสามีภรรยา

หรือถึงแม้จะอยู่ด้วยกันเราก็สามารถที่จะทำความรู้สึก ให้มันลดน้อยลงไปในเรื่องของกามราคะได้

เพราะฉะนั้นการมีชีวิตคู่ของเราก็คือ พยายามทำให้ตัวเราเองและคู่ครองมีความเข้าใจในประเด็นเรื่องนี้ เข้มข้นขึ้นมา จนในที่สุดเราตัดสินใจว่า งั้นเราก็อยู่กันเป็นพี่เป็นน้องกัน”

สุเมธ พรหมรักษา ( จิตอาสาสวนป่านาบุญ ๘ )

โสดดีหรือมีคู่ : พรทิพย์ เป็งคำตา

งานเก็บข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับความคิดเห็นที่เปลี่ยนไปจากการศึกษาองค์ความรู้ของแพทย์วิถีธรรม ในหัวข้อการอยู่เป็นโสดและการมีคู่ ของคุณพรทิพย์ เป็งคำตา ( ชื่อเล่น ตุ้ม , อายุ 50 ปี , สมรส )

โสดดีหรือมีคู่ : ธภาภัค กฤตจารุภัทร์

ธภาภัค กฤตจารุภัทร์

นางสาว ธภาภัค กฤตจารุภัทร์ ( ชื่อเล่น เอเอ , ชื่อทางธรรม น้ำร่มศีล , อายุ 34 ปี , โสด ) สังกัดที่บำเพ็ญ:สวนป่านาบุญ 9 สถานภาพ:โสดแต่เคยมีแฟน
รู้จักและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมาแล้วเป็นระยะเวลา:2 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
คิดว่าการมีคู่จะทำให้เรามีความสุข ภาพรวมจะสวยงามตามที่เราคิดไว้ แต่ความจริงไม่ใช่ มีทั้งดีและร้าย ทุกข์สุขปนกัน
หลังพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
“พอได้มาศึกษาแบบละเอียดขึ้นกับอาจารย์หมอเขียว เราแยกเป็นสุขกับทุกข์ เห็นว่าสิ่งที่ทำให้สุขคือถ้าเราคบคนที่ดีคนที่เขามีธรรมะและเข้าใจในสิ่งที่อาจารย์สอนมันเป็นสิ่งที่ดีและนี่คือความสุขเป็นสิ่งดีที่ส่วนตัวเราได้รับมา เรายังมองว่ามันเป็นสิ่งที่ดีมากๆอยู่เป็นความสุขอยู่ ส่วนความทุกข์คือการที่เราไปคาดหวังจากคู่ ไปอยากได้สิ่งที่เราอยากได้จากคู่ แล้วพอมันไม่ได้มันทำให้เราทุกข์ใจมากๆ ทำให้เราได้รู้ว่าความรักแบบพุทธะนั้นดีที่สุดแล้ว
เราไม่ต้องหวัง ไม่ต้องคาดหวัง ไม่ต้องอยากได้ มันมีแต่ให้ความปราถนาดีต่อกันมันเป็นสุขบริสุทธิ์ทั้งเขาและเราจริงๆ มันทำให้เราอยากจะพากเพียรทำไปให้ได้ถึงจุดนั้น”
ท่านมีการปฏิบัติต่อไปอย่างไร?
พิจารณาความทุกข์ และสุขปลอมที่เกิดขึ้นที่ผ่านมาไปเรื่อยๆ และก็ตั้งศีลพากเพียรที่จะมีความรักแบบพุทธะ เวลาเราเกิดไปปิ๊งใครตามสัญชาติญาณเก่าๆเราก็จะเอาตรงนี้มาเตือนเราว่ารักเขาแบบพุทธะดีกว่านะ ดีที่สุดนะ พอใช้วิธีนี้แล้วมันดีมากมันทำให้เราให้ได้แบบให้ด้วยความปราถนาดีต่อเขาจริงๆแล้วใจเราเองก็ไม่ต้องทุกข์เพราะไปหวังให้เขาต้องมาทำอะไรให้เรากลับมาด้วย

โสดดีหรือมีคู่ : ศิริพร คำวงษ์ศรี

ศิริพร คำวงษ์ศรี

ศิริพร คำวงษ์ศรี ชื่อเล่น:หมู ชื่อทางธรรม:มั่นผ่องพุทธ เพศ:หญิงอายุ:33 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ:สวนป่านาบุญ 9 สถานภาพ:โสดแต่เคยมีแฟน
รู้จักและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมาแล้วเป็นระยะเวลา:2 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
การมีคู่ คือ การมีคู่คิด คู่กายเพื่อปฏิบัติธรรมและทำสิ่งดีๆด้วยกัน
หลังพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
ก็ยังมีกิเลสอยากมีคู่ เพราะยังหลงชอบบรรยากาศหวานๆ เวลามีคู่ แต่ก็คอยสู้กิเลสไปตามลำดับ และเริ่มรู้สึกว่าการมีคู่ เป็นบ่วงภาระ ห่วงหาอาทรเป็นทุกข์ที่ทำให้กังวล และเป็นเหตุให้ปฏิบัติธรรมล่าช้า
ท่านมีการปฏิบัติต่อไปอย่างไร?
ก็ยังจะต้องพยายามสู้กับกิเลสไปเรื่อยๆไม่ให้ยินดีกับการมีคู่ สัมผัสได้ว่าการเป็นโสดนั้นเบาสบาย เป็นอิสระในการทำสิ่งดีๆให้กับตนเองและผู้อื่น ไม่เหนี่ยวนำผู้อื่นให้อยากมีคู่ เพราะเป็นการเพิ่มวิบากถ้วนหน้า

หยาดน้ำผึ้งหยดเดียวแห่งความรัก : สมณะโพธิรักษ์

หยาดน้ำผึ้งหยดเดียว” แห่ง “ความรัก
(เก็บความจากหนังสือ เราคิดอะไร ปีที่ 1 ฉบับที่ 9 กุมภาพันธ์ 2538 หน้า 3)

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์

เราก็เหมือนรู้กันทั้งโลกว่า “ความรัก” นั้น คนทั้งโลกหลงใหล และเข้าใจว่า “เป็นน้ำผึ้งที่แสนหวานหอมกันขนาดไหน

แม้กระนั้นคนก็เคยถูกพิษของ “ความรัก” แห่ง “กามราคะ” นี่แหละ ทำร้ายทำลายเอา ทุกข์จนตาย จนเจียนตาย จนพิการตาย พิการสมอง นับไม่ถ้วนมาแล้ว แต่ก็ไม่ศึกษาค้นคว้าอย่างเอาจริงเอาจัง เหมือนกับ “พระสัมมาสัมพุทธเจ้า” ที่ได้ทรงศึกษามาจนเจนจบ และสรุปว่า มันคือ “พิษร้ายตัวการแห่งทุกข์ ตัวการแห่งการทำลายสังคมมนุษยชาติตัวฉกาจทีเดียว”

ดังที่มีคำตรัสไว้มากมาย ที่ทรงถล่ม-ทรงตำหนิ “ความรักแห่งกามราคะ” พุทธวจนะสำคัญ ที่พระองค์ตรัสไว้อย่างซาบซึ้งที่สุด “ผู้ตั้งตนเป็นคนโสด ชื่อว่า “บัณฑิต” คนโง่ฝักใฝ่ในเมถุนย่อมเศร้าหมอง” ความหมายง่ายๆ ก็คือ “ผู้ที่ได้ตั้งใจไม่ฝักใฝ่ในเรื่องจะหาคู่เพื่อมาสมสู่ ก็ชื่อว่าเป็นคนฉลาดแท้ระดับบัณฑิตทีเดียว ใครยังฝักใฝ่หาคู่อยู่ ยังชื่อว่า คนโง่ และจะต้องได้รับความเศร้าหมองทุกข์ร้อน เพราะเรื่องนี้กันเป็นส่วนมาก”

ยิ่งทุกวันนี้ยิ่งไม่ต้องเพิ่มพลเมืองให้แก่โลกเลย เพราะคนจะล้นโลกอยู่แล้ว จนหาทางคุมกำเนิดกันสารพัดวิธีทั่วโลก เพราะรู้ทั้งรู้ว่า “มีลูกสมัยนี้จะต้องเป็นภาระมาก ต้องลำบากกว่าสมัยก่อนเหลือคณานับ”

แม้แต่แต่งงานแล้ว ก็ยังเพียงเพื่อเสพ “กามราคะ” เพราะหลงว่าเป็น “รสสุขแห่งชีวิต” ให้กับตนเองเท่านั้น ซึ่งเป็นเรื่อง “การบำบัดกิเลส” ตรงๆ
เนื่องจาก “ความเป็นจริง” นั้น การสมสู่เพื่อสืบเผ่าต่อพันธุ์กันตามตรงแล้ว ไม่ต้องมีอารมณ์สุข หรือไม่ต้องมีกามก็ได้”

แต่ทุกวันนี้ หาได้เป็นเรื่องของ “ธรรมชาติแท้” เพื่อสืบเผ่าต่อพันธุ์กันเป็นเป้าตรงไม่ กลายเป็นเรื่องหลงใหลติดยึดใน “รสสุขเท็จๆ” (สุขัลลิกะ = สุขที่เหลวไหล หลอกลวง) ว่า “เป็นของจริงตามความเป็นจริง จนเห็นเป็น หยาดน้ำผึ้งอันแสนหอมหวาน กันหนักหน้าขึ้นทุกวันๆ”

เพราะต่างก็ประโคม ช่วยกันหาองค์ประกอบ เสริมสร้างให้หลงเห็นว่า “ความรักเรื่องกาม” นี้ เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ เป็นสิ่งที่ดีงามจรรโลงโลก ซึ่งเป็นความเผิน เป็นความไม่ละเอียดของคน เป็นความหลงผิดแท้ๆ

เมื่อถึงวาเลนไทน์ ที่ชนต่างชาติปรุงสร้างขึ้นมาเสริมให้หลงใน “เกมกาม” นี้ยิ่งขึ้น คนไทยมากหลายก็อุตส่าห์ไปหลงนิยมตาม-คล้อยตาม-เห่อตาม-เอาอย่างตาม ให้ตนต้องเพิ่มทุกข์ เพิ่มความผลาญพร่าสูญเสียมาให้แก่ตนแก่สังคม

“ความรัก” เฉพาะเรื่องของ “กามราคะ” ที่หลงเป็นรสสุข นี้ เป็นเพียงหยดเดียวหยดหนึ่งใน “ความรัก” ทั้งหลายที่มีตั้งมากมายมิติฯ
ดังนั้น “ความรักระดับกามนิยม” ที่เป็น “ความรักมิติต่ำที่สุด” มีส่วนดีน้อยที่สุด มีส่วนเสีย-มีโทษ-มีภัยมากที่สุดนี้ จึงเป็นเพียง “หยดเดียว” ของ “หยาดน้ำผึ้ง” แห่ง “ความรัก”

เพราะ “ความรัก” นั้น มีคุณลักษณะอื่นอีกมากมายถึง 10 มิติที่ดีกว่ามีคุณค่ากว่า (“ความรัก” มีระดับต่ำ-สูงไม่ใช่จะมีแต่โทษ)

ซึ่งคนทันสมัย และมีโลกาภิวัฒน์แท้ ถึงขั้น “โลกุตระ” รู้จักอุปสงค์ ที่จะช่วยอุปทานให้แก่โลก อย่างถูกสาระสัจจะได้สัดส่วนสมแก่กาละยุคสมัย จะต้องช่วยอนุเคราะห์โลกอย่างจริงจัง ไม่ใช่ช่วยกระหน่ำซ้ำร้ายให้แก่โลกอยู่อย่างงมงาย จนต้องทุกข์ร้อนซ้อนเสริมขึ้นเป็นปฏิภาคทวี ด้วยอัตราเรขาคณิตกันไม่รู้จักลด

หากหันมาศึกษา “พุทธศาสนา” กันจริงจัง ให้ “สัมมาทิฏฐิ” จนครบปริยัติ-ปฏิบัติ-ปฏิเวธ จะพบความจริงใน “หยาดน้ำผึ้ง” หยดเดียวแห่ง “ความรัก” นี้ ได้ชัดเจน-รู้แจ้ง-เห็นจริง ตนเองรวมทั้งสังคมมนุษยชาติ ก็จะพากันมี “อิสรเสรีภาพ-ภราดรภาพ-สันติภาพ-สมรรถภาพ-บูรณภาพ” อย่างสมบูรณ์ (absolute) จริงๆได้

คนในโลกทุกวันนี้ ต่างก็ฉลาดสูงสุดแล้วใน “เกมโลกีย์” ดังนั้น จะใช้ความรู้ความฉลาดทาง “โลกีย์” แก้ปัญหาของโลก-ของโลกีย์ไม่สำเร็จหรอก เพราะมันต่างก็รู้ทันกันหมดแล้ว

ต้องใช้ความรู้ระดับ “โลกุตระ” กันอย่างจริงจัง!
จึงจะแก้ปัญหาความทุกข์ยากใน “โลกีย์” ได้จริง ขอยืนยัน!

โสดดีหรือมีคู่ : ปางน้อม กล้าจน

งานเก็บข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับความคิดเห็นที่เปลี่ยนไปจากการศึกษาองค์ความรู้ของแพทย์วิถีธรรม ในหัวข้อการอยู่เป็นโสดและการมีคู่ ของคุณ ปริศนา อิรนพไพบูลย์ ( ชื่อทางธรรม ปางน้อม กล้าจน, อายุ 64 ปี, โสด )

โสดดีหรือมีคู่ : กานดา ศักดิ์ศรชัย

งานเก็บข้อมูลวิจัยเกี่ยวกับความคิดเห็นที่เปลี่ยนไปจากการศึกษาองค์ความรู้ของแพทย์วิถีธรรม ในหัวข้อการอยู่เป็นโสดและการมีคู่ ของคุณกานดา ศักดิ์ศรชัย อายุ 71 ปี (สมรส)