โสดดีหรือมีคู่ : แก่นเกื้อ นาวาบุญนิยม

แก่นเกื้อ นาวาบุญนิยม ( ต่อน ) อายุ 60 ปี สถานะ โสดสนิท รู้จัก พวธ. มา 14 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
ไม่คิดแต่งงานมาก่อนอยู่แล้วเพราะเห็นทุกข์จากชีวิตคนคู่อื่นๆ

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
ยิ่งชัดในความทุกข์ของคนคู่

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ปฏิบัติศีลพรหมจรรย์ ตัดกิเลส เพิ่มศีล เพิ่มตบะ ลด ละ กิเลสในอาหาร เลิกกินขนมหวาน ล้างความชอบชังในจิตวิญญาณมากที่สุด ลดความทุกข์ในจิตวิญญาณมากไปพอสมควร ยกระดับจิตวิญญาณขึ้นมาจากกองทุกข์พอประมาณในชีวิตที่เหลืออยู่

โสดดีหรือมีคู่ : สำเริง สมอหมอบ

สำเริง สมอหมอบ ( นาง, ร้อยใจจน ) อายุ 59 ปี สมรส รู้จัก พวธ. มา 4 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เคยคิดว่าเป็นวงจรของชีวิตมนุษย์ที่เด็กเรียนหนังสือโตขึ้นทำงานแต่งงานสร้างครอบครัว เลี้ยงลูก ทำงานจนเกษียณ(รับราชการเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในสังคมตอนนั้น) แล้วก็แก่ และตาย จึงคิดว่าชีวิตมีเพียงเท่านั้นหรือแล้วที่เคยพบเจอบ่อยๆคือ ผู้ชายมักจะมีแฟนภรรยาหรือกิ๊กหลายคน แต่ผู้หญิงทำแบบนี้ไม่ได้

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
รู้ว่าเป็นวิบากกรรมร่วมกันถึงได้มาเจอกัน แล้วก็ต้องดูแลกันไปจนแก่เฒ่าและตายจากกันหรือมีอันต้องพลัดพรากจากกันไปตามวิบาก และเราต้องซื่อสัตย์ต่อกันเป็นมิตรต่อกัน พากเพียร ทำดี ละชั่ว และทำจิตใจไร้ทุกข์ จะช่วยให้วิบากนั้นๆลดน้อยลงได้และคิดว่าชีวิตคู่ การเลี้ยงลูกเป็นภาระที่ยากเป็นวิบากร่วมกันโดยแท้จริง ที่ต้องยอมรับและทำให้ดีที่สุด

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
การที่ได้แต่งงานแล้วและอยู่ร่วมกันได้คุยกันแบบตรงไปตรงมาว่าเราขอปฏิบัติพรหมจรรย์ เราจะอยู่ด้วยกันอย่างพรหม อย่างเพื่อน และเขาก็ควรปฏิบัติเหมือนกันไม่ควรจะนอกใจเพราะจะทำให้ศีลด่างพร้อยจะมีวิบาก เมื่อเขาเข้าใจและยอมรับได้จึงทำให้เราสามารถปฏิบัติอยู่ด้วยกันแบบพรหมได้ แล้วได้ให้แนวคิดกับลูกว่าการมีคู่นั้นเป็นความคิดไม่สัมมาทิฏฐิให้หนังสือไปอ่านเพื่อการดำรงชีพเรา

โสดดีหรือมีคู่ : จิตตรึงธรรม กล้าจน

จิตตรึงธรรม กล้าจน ( นึก ) อายุ 57 ปี หย่าร้าง, รู้จัก พวธ. มา 4 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
ช่วงแรกของชีวิตไม่เคยคิดจะมีครอบครัวจนอายุได้ 30 กว่าปีเหมือนวิบากจะให้ได้เรียนรู้จะได้เข้าใจเรื่องคนคู่ก็ได้มีครอบครัวอยู่กันได้ 8 ปีในกรุงเทพในปี 2546 คุณแม่ป่วยอยู่ที่โคราชป่วยหนักจึงลาออกจากงานไปอยู่ดูแลคุณแม่ หลังจากไปอยู่ดูแลคุณแม่ 3 เดือน สามีก็ขอหย่า

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
เมื่อหย่าร้างกับสามีแล้วไม่คิดเรื่องมีคู่อีกแต่ก็มีผู้ชายรุ่นน้อง นิสัยดี ฐานะดีเข้ามาให้รู้จักจนในปี 2557 ได้มาเข้าค่ายหมอเขียว อาจารย์ พูดเรื่องโสดหรือมีคู่ ก็ประทับใจเลยว่า ชีวิตโสดดีที่สุด แม้ชีวิตคู่ที่ผ่านมาจะไม่ได้ทุกข์อะไรมากเพราะสามีก็เป็นพ่อบ้าน ทำอาหาร ทำงานบ้านเป็นส่วนมาก

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
เมื่อได้เข้ามาปฏิบัติธรรมบำเพ็ญกับหมู่มิตรดี วิบากเข้ามาทดสอบให้ได้ล้างเรื่องคนคู่ คือ อาเล็กแก่นศีลได้รับบาดเจ็บมาแผลน่ากลัวได้เห็นรูปแล้วรู้สึกเป็นห่วงเหมือนเคยห่วงสามี ปรึกษาอาจารย์ อาจารย์ถามว่าอยากไปดูแล อยากไปครอบครองมั้ยก็บอกว่าไม่ อาจารย์เมตตาบอกว่าให้ล้างสัญญาเก่าด้วยการคิดแบบเนกขัมมะ ก็พยายามพากเพียรล้างได้สำเร็จจบเรื่องคนคู่ ขอครองชีวิตโสดดีที่สุดตลอดไป

โสดดีหรือมีคู่ : อัญชลี กุศลสถิตย์

อัญชลี กุศลสถิตย์ ( จิ๋ม, แก้วผาพลอย ) อายุ 61 ปี สมรส รู้จัก พวธ. มา 4 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
การใช้ชีวิตตามโลกโลกีย์เชื่อว่าผู้หญิงต้องมีคู่ เพราะเห็นคนอื่นแต่งงานกันเหมือนกับว่าเป็นปกติที่ผู้หญิงได้แต่งงานแล้วสมบูรณ์ จึงเลือกที่จะมีคู่ไว้ตามแบบลิงลมอมข้าวพองเมามึนไปตามกระแสโลกีย์แต่เริ่มเห็นทุกข์แล้วว่าไม่น่าแต่งงานเลย

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
เมื่อได้ฟังอาจารย์พูดเรื่อง ลาภเลว ทำให้เข้าใจทันทีว่าคนทั่วไปว่าได้คู่ได้ลูกเป็นสุขเพราะพยายามหาคู่กันแต่ชัดว่าการมีศีล 8 คือได้ประพฤติพรหมจรรย์ย่อมดีก่วาศีล5 จึงเริ่มปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต เราต้องสร้างกุศลไว้เป็นเข็มทิศนำในการใช้ชีวิต

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร
เมื่อประจักษ์ใจแล้วว่าโสดดีกว่ามีคู่ จึงวางใจในความยึดมั่นถือมั่นว่าจะต้องครองคู่จนตายจากกัน ทำข้อตกลงกันว่าขออนุญาตออกไปสร้างกุศล เป็นจิตอาสาเพื่อสร้างกุศลพึ่งตนและช่วยคนต่อไปเป็นที่พึ่งอย่างแท้จริง ทุกคนต้องพึ่งความดีที่เราทำมา สุขทุกข์อยู่ที่ต้องทำมาทั้งหมด

โสดดีหรือมีคู่ : ปริญญ์ ขวัญเชื้อ

ปริญญ์ ขวัญเชื้อ ( น๊อต ) อายุ 23 ปี รู้จัก พวธ. มา 2 ปี

5. ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
สมัยก่อนก็อยากมีแฟนเหมือนคนทั่วไปแต่พอได้เห็นเพื่อนเขามีกัน มันก็รู้สึกว่ามันเริ่มไม่ใช่เพราะเห็นเพื่อนให้ความสำคัญกับความรักมากไปยึดติดความรักมากไปจนเริ่มคิดว่ามันไม่ใช่ล่ะ โดยส่วนตัวก็มีหวั่นไหวอยู่บ้างและเป็นคนชอบผู้หญิงที่โสดแต่ได้แค่ชอบอย่างเดียวเพราะถ้าเราไปมีแฟนกับเขา เขาก็จะไม่โสดและเราก็จะไม่ทำอะไรกับคนอื่นเลยก็เลยประคองตนเองมาถึงทุกวันนี้และเราได้เห็นความทุกข์ ของครอบครัวมาเยอะมากจากคนอื่น

6. หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
หลังพบแพทย์วิถีธรรมและอาจารย์หมอเขียวก็ทำให้ได้รู้ว่าสิ่งที่เราประคองความโสดของตัวเองมามันถูกแล้ว แล้วทำให้รู้ว่าโสดอย่างเดียวไม่พอเพราะต้องลดกิเลสในเรื่องนี้ให้มันละเอียดให้ถึงที่สุด เพราะว่าสมัยก่อนเราเป็นคนไม่ชอบคนเจ้าชู้ บ้าผู้หญิงมากและเคยได้ฟังอาจารย์บอกว่าถ้าเราเกลียดเรื่องอะไรมากแสดงว่าแต่ก่อนเราเป็นเช่นนั้นมาเหมือนกันเมื่อได้มาพบกับธรรมอาจารย์บวกกับความโสดของตัวเราที่ประคองมาทำให้เรามีความรอบคอบและไม่ประมาทในเรื่องนี้

7. มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ถ้าไม่จำเป็นอะไรก็ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับเพศตรงข้ามเลย แต่ถ้ามีเหตุที่ต้องมีการทำงานร่วมกันก็อยู่กันเป็นหมู่กลุ่มหลายคนเพราะจะได้ช่วยดึงกันและทิ้งตนอยู่ในความไม่ประมาท สัมรวมตัวเองกำจัดความคิดฟุ้งซ่านให้ได้มากที่สุดตามฐานของตนเองไปตามลำดับ

โสดดีหรือมีคู่ : พีรพงษ์ จันดี

พีรพงษ์ จันดี ( ชื่อเล่น:ต๋อง ชื่อทางธรรม:ริมเขา โบยบิน ) อายุ 39 ป้ รู้จัก พวธ. มา 5 ปี สถานะ โสดสนิท

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เป็นเรื่องปกติของโลกที่ต้องมีคู่ครอง เพื่อก่อตั้งเป็นครอบครัวรวมกัน ความรักที่สมบูรณ์แบบนั้นต้องมีคู่ครองแล้วรวมกันก่อตั้งสร้างตัวรวมกันเติมเต็มให้กัน มีบ้าน มีรถและมีญาติทางสายเลือดลูกหญิงลูกชายไว้สืบสกุลดูแลยามแก่เฒ่าเจ็บป่วย จึงมองเป็นเรื่องที่มนุษย์นั้นต้องมีคู่ครองก่อนถึงวัยอันควรลาจากโลกนี้ไป

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
พบความจริงของสัจจะทำที่แท้จริง คือ กองทุกข์กองกิเลสของเค้าของเรามารวมกันในความอยากตอบสนองความต้องการของตนเองนั้นเอง จริงคือเรื่องของกามราคะความหลงความชอบเป็นความรักแบบหยาบมีคำกล่าวของพระพุทธองค์ว่า ผู้ขวักไขว่ในคู่ย่อมเศร้าหมอง แต่ผู้ทำตัวเป็นบัณฑิตย่อมเป็นผู้เจริญพบความสุขที่แท้จริง คือความรักสิบมิติ

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร
ให้ของเป็นเรื่องความรักที่แท้จริงคือ ความรักสิบมิติที่พ่อครูสมณะโพธิ์รักษ์ได้กล่าวคำสั่งสอนไว้ ความรักแค่คนสองคนคือความรักที่เห็นแก่ตัวทั้งคู่เท่านั้น แต่ความรักสิบมิตินั้นคือความรักที่เสียสละอันยิ่งใหญ่คือความรักที่ไม่มีการกีดกันในทุกชนชั้นเป็นความรักที่มอบให้แก่ทุกคนเท่ากันไม่นึกถึงแต่ตนเองคนรักครอบครัวพี่น้องแต่เป็นความรักที่สามารถให้ทุกคนในโลกใบนี้ได้นั้นคือความรักที่แท้จริง

โสดดีหรือมีคู่ : ชัยภัทร ชุติคามี

ชัยภัทร ชุติคามี ชื่อเล่น เชย์ ชื่อทางธรรม ทุ่มโถมธรรม อายุ 29 ปี รู้จัก พวธ. มา 5 ปี สถานะ โสดสนิท

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
การมีคู่เป็นเรื่องจำเป็น ทำให้เรามีคนคอยดูแล ห่วงใย เอาใจใส่ไปจนแก่เฒ่าทำให้เรามีเพื่อนคู่คิด ทำให้เราไม่เหงา แต่พอมีจริงกลับพบว่าทำให้เราต้องแบ่งเวลาไปดูแลเอาใจใส่เขาต้องคอยเอาอกเอาใจเขา อยากให้เขาได้ดีและก็มีแต่ความไม่สบายใจแต่ก็ออกไม่ได้เพราะนึกถึงช่วงเวลาดีที่เราเคยมีให้กันและกันอยู่ก็เสียดาย

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
ช่วงมาพบแพทย์วิถีธรรม ก็เป็นช่วงเพิ่งเลิกกับแฟน และกำลังคิดที่จะมีแฟนใหม่แต่ก็ได้มารู้ว่าการมีคู่มันก็มีแต่ได้สมใจเป็นสุข พอไม่ได้สมใจกันก็เป็นทุกข์เท่านั้น ก็ทำให้เราได้ใคร่ครวญไตร่ตรองตามก็เห็นจริงอย่างนั้น แท้ที่จริงแล้วการอยากมีคู่เราไม่ได้อยากให้เขาได้ดีหรอกแท้จริงแล้วเราอยากจะเอาดีจากเขาอยากได้ความสมใจจากเขาต่างหาก

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
พิจารณาโทษของการมีคู่ว่าทำให้เรายึดมั่นถือมั่นว่าเราจะต้องได้ดีสมใจ ทำให้เราทุกข์ใจและเขาก็ทุกข์ใจ เป็นการทำร้ายทั้งเราและเขาและสองคือพิจารณาจากประโยชน์การเป็นโสดว่าทำให้เรามีโอกาสล้างความยึดมั่นถือมั่นในเรื่องคนคู่การจะเอาความได้สมใจจากคนอื่นและที่สำคัญคือ ทำให้เรามีโอกาสหรือมีอิสระในการทำความดีช่วยเหลือผู้อื่นและลดกิเลสในเรื่องอื่นมากขึ้น

โสดดีหรือมีคู่ : สนทยา กันทะมูล

คุณ สนทยา กันทะมูล ( มัน, มั่นศีลขวัญ ) อายุ 46 ปี รู้จัก พวธ. มา 10 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เหมือนคนทั่วไปที่มีแฟนแล้วมามีลูกสร้างฐานะร่วมกันอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขอยู่ในศีลธรรมที่ดี สอนลูกให้เป็นคนดีเป็นครอบครัวแบบอย่างที่ดีของสังคม

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
เป็นความโง่ที่หลงคิดไปว่าชีวิตคนคู่เป็นชีวิตที่สร้างความสุขให้ตัวเราและคนรอบข้าง

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ได้ทำหน้าที่ภรรยาที่ถูกธรรมมากขึ้นตามที่เคยได้ฟังจาก อ.หมอเขียวขยายให้ฟัง จากที่เคยชอบ/ชัง ชีวิตคู่ตอนนี้ได้ล้างความชอบชังไปได้ในระดับที่รู้สึกได้ว่ามีความผาสุกได้อย่างเบิกบานในชีวิตคู่นี้ และตั้งจิตใจว่าจะพรากเพียรลดกิเลสให้ได้มากที่สุดถ้าเป็นไปได้จะขอเป็นผู้ประพฤติพรหมจรรย์ตั้งแต่นี้ไป

โสดดีหรือมีคู่ : อาทิตยา คงทอง

อาทิตยา คงทอง ( สา น้อมแสงพุทธ ) อายุ 49 ปี รู้จัก แพทย์วิถีธรรม มา 9 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
คิดว่าการมีคู่ดีเพราะจะได้ดูแลกันช่วยเหลือกันทำอะไรก็มีเพื่อนร่วมคิดแต่จริงๆก็ไม่เป็นเช่นนั้นเลยมีคู่ก็เหมือนมีภาระหนักต้องดูแลเอาใจเขา

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
การไม่มีคู่คือการมีลาภอันประเสริฐเพราะไม่ต้องไปสร้างกรรมเพิ่มไม่ต้องไปเป็นแรงเหนี่ยวนำในเรื่องชั่วๆ ชวนกันไปเสพของผิดๆ ต้องดูแลส่งเสริมในทางที่ผิดบาป ต้องดูแลเอาใจเขา

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ตั้งใจเป็นโสด งดเว้นเรื่องคนคู่เพิ่มศีล ลด ละ อาหารที่มีรสจัดหรือขนมที่ไปในทางเลี้ยงกาม

โสดดีหรือมีคู่ : แพรลายไม้ กล้าจน

แพรลายไม้ กล้าจน อายุ 45 ปี รู้จัก แพทย์วิถีธรรม มา 10 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
มองเห็นว่าการมีคู่เป็นทุกข์ มองว่าไม่ใช่สิ่งที่เราปรารถนา และไม่ชอบให้ใครมารักเราหรือมาชอบเรา เพราะรู้สึกรำคาญและไม่เป็นอิสระ มองว่าชีวิตคู่น่าเบื่อ การเป็นโสดมีอิสรภาพดี จะทำอะไรจะไปไหนมันสบายตัว ไม่ต้องมีพันธะไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง และรู้สึกว่าคนที่มีแฟนหรือมีคู่เป็นคนที่อ่อนแอ ไปดูถูกเหยียดหยามเขา และคิดว่าคนที่มีแฟนเพราะขาดเพื่อน ไม่มีคนคอยให้กำลังใจหรือคู่คิด การมีแฟนหรือมีคู่เป็นการยึดติดและผูกพันกันไม่มีที่สิ้นสุดน่าเบื่อ พึ่งพาตัวเองไม่ได้ แต่ลึก ๆ ก็อยากมีคนมาเอาเอาใจ แต่ไม่ต้องมาผูกมัดหรือยึดครองกัน ว่าคนนี้เป็นแฟนฉัน คือ อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ถ้าไม่เรียกก็ไม่ต้องมาหา มันเหมือนเราจะเอาอย่างเดียวไม่สนใจฝ่ายตรงข้าม ทนเราไม่ไหวก็ไปซะไม่ได้ง้อให้มาชอบ ไม่แคร์ความรู้สึกใครเอาแต่ใจตัวเอง เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ และไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจหรือคำสั่งของใครเราต้องเป็นผู้นำ

หลังพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
หลังจากที่มาพบแพทย์วิถีธรรมความคิดเรื่องการมีคู่ครองยิ่งชัดเจนมากขึ้น ว่าคนที่เป็นโสดทำประโยชน์ได้มากกว่าคนที่มีคู่ครอง และมีอิสระภาพ พร้อมทั้งไม่ต้องแบกวิบากหรือต้องไปมีวิบากร่วมกันในเรื่องของความเป็นญาติ หรือการช่วยเหลือใด ๆ เราสามารถที่จะพรากเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะไม่มีการยึดติดใด ๆ ไม่มีการคาดหวังซึ่งกันและกัน ทั้งเขาและเราหรือใคร ๆ มันทำให้เราช่วยงานศาสนาหรือทำประโยชน์ได้อย่างมากมาย โดยที่เราไม่ต้องมีเวลามาทุกข์กับเรื่องเหล่านี้ เพราะโดยส่วนตัวก็คิดว่ามันไร้สาระอยู่แล้ว เราเคยเห็นคนที่อยู่รอบข้างเรามากมาย ที่มีทุกข์เพราะเรื่องคู่ รู้สึกว่าตัวเองโชคดี แต่สิ่งหนึ่งที่มันได้เพิ่มขึ้นมาก็คือ เมื่อก่อนเราจะไร้ซึ่งความเมตตา และดูถูกเหยียดหยามคนที่เขาอ่อนแอเรื่องของการมีคู่ หรือจำเป็นจะต้องไปมีคู่มันมีตัวรังเกียจมาก ว่าพวกนี้ไม่ดำรงตนเป็นคนโสดเป็นคนโง่เขลา แต่พอมาฟังอาจารย์เข้าใจทำให้เราเมตตาและเข้าใจว่า บางคนเขาเกิดมาเป็นคู่เวรคู่กรรมและมีวิบากต่อกัน จะให้เขามาคิดหรือมาหลุดวงโคจรง่าย ๆ เหมือนที่เราคิดมันก็ไม่ได้เพราะฉะนั้น ต้องเมตตาและให้กำลังใจคนที่มีคู่ครอง ให้เขาอยู่กันแบบพรหมแบบพี่น้อง ไม่ใช่อยู่กันแบบที่มีความยึดจะเอาซึ่งกันและกัน ถึงสามารถที่จะให้คำปรึกษาและพูดคุยหรือเข้าใจความรู้สึกของคนที่ทุกข์จากเรื่องนี้ได้ ก็ทำให้เราได้ช่วยเหลือผู้ที่เขาอยากจะพ้นทุกข์ตัวนี้ได้ด้วยเมตตามากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ก่อนมาเจอแพทย์วิถีธรรมก็จะตีทิ้งและว่าเขาไปแรง ๆ อาจารย์เคยสอนว่า อย่าไปรังเกียจไม่ชอบสิ่งนั้น เพราะเราจะกลายไปเป็นแบบนั้น หรือไม่ก็คนใกล้ชิดเรา คนที่เรารักจะไปเป็นแบบที่เราไม่ชอบ มันชัดเจนเรื่องวิบากจึงเข้าใจและทำใจ และมองเห็นว่าการมีค฿่ครองก็เป็นเรื่องปกติสามัญของมนุษย์ปุถุชนที่ยังทุกข์ไม่ถึงที่สุดเขาก็จะยังไม่ยอมออกจากทุกข์นั้นช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็วาง

ท่านมีการปฏิบัติต่อไปอย่างไร?
ก็ตั้งใจพากเพียรอยู่เป็นคนโสดให้ถึงที่สุด จนกว่าชีวิตจะหาไม่ในชาตินี้ แต่ก็ไม่ประมาท จะไม่เวียนกลับลงไปยกเว้นว่าถ้ามันมีวิบากจริง ๆ ก็จะยอมรับได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเข้าใจได้ คือการที่เราดำรงตนอยู่ในหมู่มิตรดี สหายดี สังคม สิ่งแวดล้อม ที่เป็นองค์ประกอบดี อยู่ในแวดวงของคนที่ไม่ได้อยากจะมีคู่ครอง ก็จะทำให้เรารอดพ้นจากวิบากกรรมได้ หรือถ้ามีก็คงจะแค่เฉียด ๆ ทำให้เราได้ชดใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ และชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าโดยความตั้งใจ ก็คิดว่าจะช่วยงานศาสนาโดยการดำรงตนเป็นคนโสด และไม่ว่าจะเกิดมาอีกในชาติหน้าหรือชาติไหน ๆ ก็จะดำรงตนเป็นคนโสด ตั้งจิตแบบนี้มาตั้งนาน และตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ก็คงมุ่งมั่นต่อไป แต่เราก็จะไม่ไปสร้างความผูกพันใด ๆ หรือก่อไม่วิบากใหม่ให้กับใคร หรือแม้นหากมีใครจะมาผูกพัน หรือรักใคร่กับเรา เราก็ต้องวางตัวให้เหมาะสม และต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ หมู่มิตรดี ให้ช่วยกันป้องกันและตักเตือนกัน ไม่เปิดโอกาสให้เพศตรงข้าม หรือฝ่ายตรงข้ามได้เข้ามาอยู่ในรัศมี หรือองค์ประกอบที่จะทำให้เขาคิดได้ว่าเรามีใจให้กับเขา การพูดคุยกับเพศตรงข้ามก็จะพยายามไม่คุยตามลำพัง หรือคุยในที่ลับหูลับตา หรือหากมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุย ก็คุยแค่เรื่องกิจกรรมการงาน หรือเรื่องขอความช่วยเหลือกันโดยมีเพื่อนผู้หญิง หรือพยานหลักฐานอยู่กับเรา ไม่เปิดโอกาสให้อยู่ลำพังสองต่อสองเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม เพราะในสมัยนี้การวิปริตผิดเพศก็มีเยอะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ก็ควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราไม่ไปสร้างความผูกพันใด ๆ กับใคร แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำหน้าที่ ในสถานะที่เราเป็นอยู่เราต้องชัดเจนในหน้าที่ แต่เราไม่ได้มีใจผูกพันหรือยึดติด เช่น ลูกก็มีหน้าที่ดูแลพ่อแม่ แต่เราก็จะไม่ไปยึดติดว่าจะขาดซึ่งกันและกันไม่ได้ เป็นต้น ยังคบค้าสมาคมกับผู้คนได้แต่ถ้าศีลเรามั่นคงมันจะมีเกราะป้องกันได้ คิดว่ากิเลสตัวอื่น ๆ ก็น่าจะตายได้เร็วถ้าอยู่ในหมู่กลุ่ม เพราะกิเลสมันกลัวตาย เมื่อไหร่ก็ตามที่คิดจะแอบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำอะไรกับใครเป็นพิเศษนั่นแหละเรากำลังจะเสื่อมต้องรับและขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
บัณฑิตพึงตั้งตนเป็นโสด ส่วนคนโง่ย่อมฝักใฝ่ในเมถุน

เรามาทำความรัก 10 มิติให้แก่โลกใบนี้ แล้วคุณจะเข้าใจชัดเจนว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ รักร้อยก็ทุกข์ร้อย ไม่รักก็ไม่ทุกข์
สาธุค่ะ