โสดดีหรือมีคู่ : พวงเพชร ช่างซอ

พวงเพชร ช่างซอ ( นาย ) อายุ 55 ปี รู้จักพวธ. มา 7 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
มีคู่ก็น่าจะดีนะจะได้มีคนหรือคู่ไว้เป็นเพื่อนหรือปรึกษาหารือ ช่วยกันทำมาหากินไปไหนไปกัน

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
ไม่มีคู่ก็จะไปไหนไปกันไม่ต้องมีคนคอยห่วงไม่ว่าเราห่วงเขาหรือเขาห่วงเราชีวิตวุ่นวาย

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
คบผู้ชายเป็นเพื่อนร่วมโลกเกิดแก่เจ็บ ตาย เท่านั้น

โสดดีหรือมีคู่ : แพรลายไม้ กล้าจน

แพรลายไม้ กล้าจน อายุ 45 ปี รู้จัก แพทย์วิถีธรรม มา 10 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
มองเห็นว่าการมีคู่เป็นทุกข์ มองว่าไม่ใช่สิ่งที่เราปรารถนา และไม่ชอบให้ใครมารักเราหรือมาชอบเรา เพราะรู้สึกรำคาญและไม่เป็นอิสระ มองว่าชีวิตคู่น่าเบื่อ การเป็นโสดมีอิสรภาพดี จะทำอะไรจะไปไหนมันสบายตัว ไม่ต้องมีพันธะไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง และรู้สึกว่าคนที่มีแฟนหรือมีคู่เป็นคนที่อ่อนแอ ไปดูถูกเหยียดหยามเขา และคิดว่าคนที่มีแฟนเพราะขาดเพื่อน ไม่มีคนคอยให้กำลังใจหรือคู่คิด การมีแฟนหรือมีคู่เป็นการยึดติดและผูกพันกันไม่มีที่สิ้นสุดน่าเบื่อ พึ่งพาตัวเองไม่ได้ แต่ลึก ๆ ก็อยากมีคนมาเอาเอาใจ แต่ไม่ต้องมาผูกมัดหรือยึดครองกัน ว่าคนนี้เป็นแฟนฉัน คือ อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ถ้าไม่เรียกก็ไม่ต้องมาหา มันเหมือนเราจะเอาอย่างเดียวไม่สนใจฝ่ายตรงข้าม ทนเราไม่ไหวก็ไปซะไม่ได้ง้อให้มาชอบ ไม่แคร์ความรู้สึกใครเอาแต่ใจตัวเอง เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ และไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจหรือคำสั่งของใครเราต้องเป็นผู้นำ

หลังพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
หลังจากที่มาพบแพทย์วิถีธรรมความคิดเรื่องการมีคู่ครองยิ่งชัดเจนมากขึ้น ว่าคนที่เป็นโสดทำประโยชน์ได้มากกว่าคนที่มีคู่ครอง และมีอิสระภาพ พร้อมทั้งไม่ต้องแบกวิบากหรือต้องไปมีวิบากร่วมกันในเรื่องของความเป็นญาติ หรือการช่วยเหลือใด ๆ เราสามารถที่จะพรากเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะไม่มีการยึดติดใด ๆ ไม่มีการคาดหวังซึ่งกันและกัน ทั้งเขาและเราหรือใคร ๆ มันทำให้เราช่วยงานศาสนาหรือทำประโยชน์ได้อย่างมากมาย โดยที่เราไม่ต้องมีเวลามาทุกข์กับเรื่องเหล่านี้ เพราะโดยส่วนตัวก็คิดว่ามันไร้สาระอยู่แล้ว เราเคยเห็นคนที่อยู่รอบข้างเรามากมาย ที่มีทุกข์เพราะเรื่องคู่ รู้สึกว่าตัวเองโชคดี แต่สิ่งหนึ่งที่มันได้เพิ่มขึ้นมาก็คือ เมื่อก่อนเราจะไร้ซึ่งความเมตตา และดูถูกเหยียดหยามคนที่เขาอ่อนแอเรื่องของการมีคู่ หรือจำเป็นจะต้องไปมีคู่มันมีตัวรังเกียจมาก ว่าพวกนี้ไม่ดำรงตนเป็นคนโสดเป็นคนโง่เขลา แต่พอมาฟังอาจารย์เข้าใจทำให้เราเมตตาและเข้าใจว่า บางคนเขาเกิดมาเป็นคู่เวรคู่กรรมและมีวิบากต่อกัน จะให้เขามาคิดหรือมาหลุดวงโคจรง่าย ๆ เหมือนที่เราคิดมันก็ไม่ได้เพราะฉะนั้น ต้องเมตตาและให้กำลังใจคนที่มีคู่ครอง ให้เขาอยู่กันแบบพรหมแบบพี่น้อง ไม่ใช่อยู่กันแบบที่มีความยึดจะเอาซึ่งกันและกัน ถึงสามารถที่จะให้คำปรึกษาและพูดคุยหรือเข้าใจความรู้สึกของคนที่ทุกข์จากเรื่องนี้ได้ ก็ทำให้เราได้ช่วยเหลือผู้ที่เขาอยากจะพ้นทุกข์ตัวนี้ได้ด้วยเมตตามากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ก่อนมาเจอแพทย์วิถีธรรมก็จะตีทิ้งและว่าเขาไปแรง ๆ อาจารย์เคยสอนว่า อย่าไปรังเกียจไม่ชอบสิ่งนั้น เพราะเราจะกลายไปเป็นแบบนั้น หรือไม่ก็คนใกล้ชิดเรา คนที่เรารักจะไปเป็นแบบที่เราไม่ชอบ มันชัดเจนเรื่องวิบากจึงเข้าใจและทำใจ และมองเห็นว่าการมีค฿่ครองก็เป็นเรื่องปกติสามัญของมนุษย์ปุถุชนที่ยังทุกข์ไม่ถึงที่สุดเขาก็จะยังไม่ยอมออกจากทุกข์นั้นช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็วาง

ท่านมีการปฏิบัติต่อไปอย่างไร?
ก็ตั้งใจพากเพียรอยู่เป็นคนโสดให้ถึงที่สุด จนกว่าชีวิตจะหาไม่ในชาตินี้ แต่ก็ไม่ประมาท จะไม่เวียนกลับลงไปยกเว้นว่าถ้ามันมีวิบากจริง ๆ ก็จะยอมรับได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเข้าใจได้ คือการที่เราดำรงตนอยู่ในหมู่มิตรดี สหายดี สังคม สิ่งแวดล้อม ที่เป็นองค์ประกอบดี อยู่ในแวดวงของคนที่ไม่ได้อยากจะมีคู่ครอง ก็จะทำให้เรารอดพ้นจากวิบากกรรมได้ หรือถ้ามีก็คงจะแค่เฉียด ๆ ทำให้เราได้ชดใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ และชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าโดยความตั้งใจ ก็คิดว่าจะช่วยงานศาสนาโดยการดำรงตนเป็นคนโสด และไม่ว่าจะเกิดมาอีกในชาติหน้าหรือชาติไหน ๆ ก็จะดำรงตนเป็นคนโสด ตั้งจิตแบบนี้มาตั้งนาน และตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ก็คงมุ่งมั่นต่อไป แต่เราก็จะไม่ไปสร้างความผูกพันใด ๆ หรือก่อไม่วิบากใหม่ให้กับใคร หรือแม้นหากมีใครจะมาผูกพัน หรือรักใคร่กับเรา เราก็ต้องวางตัวให้เหมาะสม และต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ หมู่มิตรดี ให้ช่วยกันป้องกันและตักเตือนกัน ไม่เปิดโอกาสให้เพศตรงข้าม หรือฝ่ายตรงข้ามได้เข้ามาอยู่ในรัศมี หรือองค์ประกอบที่จะทำให้เขาคิดได้ว่าเรามีใจให้กับเขา การพูดคุยกับเพศตรงข้ามก็จะพยายามไม่คุยตามลำพัง หรือคุยในที่ลับหูลับตา หรือหากมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุย ก็คุยแค่เรื่องกิจกรรมการงาน หรือเรื่องขอความช่วยเหลือกันโดยมีเพื่อนผู้หญิง หรือพยานหลักฐานอยู่กับเรา ไม่เปิดโอกาสให้อยู่ลำพังสองต่อสองเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม เพราะในสมัยนี้การวิปริตผิดเพศก็มีเยอะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ก็ควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราไม่ไปสร้างความผูกพันใด ๆ กับใคร แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำหน้าที่ ในสถานะที่เราเป็นอยู่เราต้องชัดเจนในหน้าที่ แต่เราไม่ได้มีใจผูกพันหรือยึดติด เช่น ลูกก็มีหน้าที่ดูแลพ่อแม่ แต่เราก็จะไม่ไปยึดติดว่าจะขาดซึ่งกันและกันไม่ได้ เป็นต้น ยังคบค้าสมาคมกับผู้คนได้แต่ถ้าศีลเรามั่นคงมันจะมีเกราะป้องกันได้ คิดว่ากิเลสตัวอื่น ๆ ก็น่าจะตายได้เร็วถ้าอยู่ในหมู่กลุ่ม เพราะกิเลสมันกลัวตาย เมื่อไหร่ก็ตามที่คิดจะแอบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำอะไรกับใครเป็นพิเศษนั่นแหละเรากำลังจะเสื่อมต้องรับและขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
บัณฑิตพึงตั้งตนเป็นโสด ส่วนคนโง่ย่อมฝักใฝ่ในเมถุน

เรามาทำความรัก 10 มิติให้แก่โลกใบนี้ แล้วคุณจะเข้าใจชัดเจนว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ รักร้อยก็ทุกข์ร้อย ไม่รักก็ไม่ทุกข์
สาธุค่ะ