ถ้าเจอคู่วิบาก (เนื้อคู่ , ฯลฯ) จะตัดความรักอย่างไร?

ตัดรักอย่างไร

ถาม หลวงปู่เคยมีความรักหรือเปล่าคะ

พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ : เคย… เคยมีความรัก เคยอกหักด้วยนะ เคยทำให้คนอื่นอกหักก็เคย ไม่ได้เรื่องหรอกนะ อาตมาก็ยังมีวิบาก เกิดมาชาตินี้ก็มีวิบาก

คนเรามีวิบาก มีคู่วิบากอะไรต่ออะไรเยอะแยะ เพราะฉะนั้นถ้ามันจะเจอคู่วิบาก มันจะเกิดความรักความอะไรก็ต้องหัดหยุดหัดเลิกไม่ใช่ไปวิ่งเข้าหามัน มันเป็นทุกข์

พระพุทธเจ้าท่านสอนเรื่องพวกนี้ลึกซึ้ง เราก็ต้องเรียนรู้ ถ้าเผื่อว่า เชื่อพระพุทธเจ้าแล้วก็พยายามพากเพียรหัดหยุดหัดเลิก มันจะไม่เกิดทุกข์ในตัวเองในชีวิต

ไม่สร้างเวร สร้างกรรม มันไม่ใช่เรื่องจบง่ายๆ มันข้ามชาติ เพราะงั้นเราพยายามหยุดพยายามเลิกๆ ไปแต่ละชาติๆ มันก็จะหมดไปเรื่อยๆ แล้วมันก็จะไม่ต้องไปทุกข์ในเรื่องนี้เลย

ถาม แล้วหลวงปู่ทำยังไงถึงไม่รักคะ

พ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ : ก็เรียนรู้ความจริง พยายามเห็นว่ามันเป็นสิ่งที่ไม่ดี เรียกว่า อสุภะ อสุภะแปลว่าไม่ดี มันเป็นเรื่องไม่ดี มันไปเกิดอาการอย่างงี้มันเป็นเรื่องไม่ดี

เรื่องกามเป็นเรื่องพาทุกข์ เป็นเรื่องที่เป็นภาระเป็นเรื่องหนัก ต้องพยายามเรียนรู้กล้วลดๆๆๆ แล้วเลิก เรียนรู้จิต

ที่จริงปฏิบัติธรรมของพระพุทธเจ้าเนี่ย
จะตัดสิ่งเหล่านี้ลงไปได้จริง ลดลงไปได้จริง
ถ้าไม่เรียนรู้จริงๆ อย่างของพระพุทธเจ้าเนี่ย
จะตัดสิ่งเหล่านี้ลงไปได้จริง ลดลงไปได้จริง

ถ้าไม่เรียนรู้จริงๆ อย่างของพระพุทธเจ้าพาทำ เขาจะลดได้บ้าง กดข่มจิตแล้วก็พยายามเว้น เขาก็ระงับการสร้างใหม่

แต่วิบากเก่า คู่วิบากเก่าไม่ได้หยุดนะ ไม่มีเพิ่มเท่านั้นเอง ไม่สร้างวิบากใหม่เท่านั้นเอง แต่ของพระพุทธเจ้านั้นลดกิเลส มันก็ลดลงไปด้วย คู่วิบากใหม่ก็ไม่มีแล้วก็ลดกิเลสลงไปด้วย

พ่อครูสมณะโพธิรักษ์

ที่มา : เพจ บุญนิยมทีวี (22 ธ.ค. 2562)

โสดดีหรือมีคู่ : ศิริขวัญ แซ่ลิ่ม

ศิริขวัญ แซ่ลิ่ม

นางศิริขวัญ แซ่ลิ่ม ชื่อเล่น ขวัญ ชื่อทางธรรม ขวัญไพรเย็น เพศ หญิง อายุ 43 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ สวนป่านาบุญ2 คู่ (แต่งงาน/มีแฟน) ยินดีประพฤติพรหมจรรย์ (คือ ใช้ชีวิตตามหลักพรหมวิหาร 4 (เมตตา กรุณา มิทิตา อุเบกขา) รู้จักและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมาแล้ว 7 ปีกว่า

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
อยากมีชีวิตคู่ อยากมีคนดูแล เห็นเขามีคู่แล้วคิดว่ามีความสุข คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาของโลก สวีท หวานแหวว โลกสีชมพู ยิ่งได้คู่ดีด้วย
หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร
บัณฑิตย่อมประพฤติตนเป็นโสด พอแล้ว ทุกข์มากแล้ว วิบากยาวนานเหลือเกิน เมื่อยกับวิบาก ไม่สุขสักนิดมีแต่ทุกข์ โง่ ชั่ง หนัก นาน โลกมืด สีดำ ชั่วทั้งคู่ 555
มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ปฎิบัติศีลขั้นมาลดละการเสพคนคู่จนเป็นโสดได้แล้วค่ะ ระหว่างปฎิบัติต้องลดกิเลสตัวที่ทำให้จิตใจทุกข์เข้ามาทุกตัวไปพร้อมกัน พลังมากขี้นวิบากเขาปล่อยเราสบายค่ะ เพราะเราปล่อย

โสดดีหรือมีคู่ : ลำพึง ก๋งจิ๋ว

ลำพึง ก๋งจิ๋ว

ลำพึง ก๋งจิ๋ว ชื่อเล่น:พึง ชื่อทางธรรม:ดินนวนสิน เพศ:หญิงอายุ:49 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ:สวนป่านาบุญ 1 สถานภาพ:หย่าร้าง
รู้จักและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมาแล้วเป็นระยะเวลา:8 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เป็นโสดดีกว่าแต่มีวิบากกรรมต้องชดใช้ได้แต่งงาน
หลังพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
เข้าใจเรื่องวิบากกรรมมากขึ้น
ท่านมีการปฏิบัติต่อไปอย่างไร?
มีอิสระมากขึ้นเบาใจไม่อาลัยอาวรตั้งใจประพฤติตนไม่ก่อวิบากกรรมเพิ่มขอขดใช้สิงที่เคยทำผิดมาเราแสบสุดๆ ลดกิเลสของเราให้มากๆ ทำความดีให้มากๆ ช่วยเหลือผู้อื่น(ตามแรงที่ทำใด้) สาธุค่ะ

โสดดีหรือมีคู่ : จงกช สุทธิโอสถ

จงกช สุทธิโอสถ

นางจงกช สุทธิโอสถ ชื่อเล่น ย่านาง เพศ หญิง อายุ 71 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ สวนป่านาบุญ 9 เคยมีคู่ แต่คู่เสียชีวิตแล้ว รู้จักแพทย์วิถีธรรม 8 ปี ปฎิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรม 12 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
มีคู่ดี มีเพื่อนคู่คิด ทำอะไรก็มีคนช่วย บางครั้งคิดเหมือนกันก็ถูกใจ เอาใจกันและกัน บางครั้งความคิดเห็นไม่ตรงกัน ก็เถียงกันต่างคนต่างเฉย ดูท่าทีซึ่งกันและกัน บางครั้งเราขี้เกียจไว้ท่าทีนานก็คุยกับเขาก่อน แล้วก็ดีมีความเข้าใจกันอีก เป็นอย่างนี้ไปๆมาๆ จะมีดีกรีของความเบาหรือแรงอยู่ที่ต่างฝ่ายต่างคิดว่าสำคัญสำหรับตัวเองประมาณไหน
หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
ก็ได้เห็นความจริงว่าที่เราต้องมีคู่เพราะเรามีวิบากกรรมต้องชดใช้ให้คู่จนกว่าต่างฝ่ายต่างชดใช้กันจนเหลือน้อยที่สุดเท่าที่แต่ละฝ่ายเข้าใจความจริงแท้ในเรื่องคู่ การเข้าใจก็จะสลัดออกไม่อยากเกี่ยวข้องกับความลวงที่เราเข้าใจผิดกันมาตลอด
มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
เมื่อกลับมาเป็นคนโสดสนิท ก็ดีที่สุดแล้ว ไม่ขอกลับไปมีคู่อีก

โสดดีหรือมีคู่ : ดินแสงธรรม กล้าจน

นางสาว ดินแสงธรรม กล้าจน ชื่อเล่น ติ๊ก อายุ 44 ปี สถานะ โสดสนิท รู้จักแพทย์วิถีธรรม 9 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
ไม่อยากแต่งงาน แต่ผู้ใหญ่มักตั้งคำถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน เราก็รู้สึกไม่พอใจแต่ไม่สามารถอธิบายได้ว่าไม่พอใจเพราะอะไร บอกเพียงว่า เราไม่อยากเจอคู่ที่นิสัยไม่ดี มันเสี่ยงที่จะทุกข์ไปตลอดชีวิต

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
อาจารย์ช่วยย้ำความมั่นใจให้รู้ว่าเราคิดถูกมาถูกทางแล้ว โชดดีมากแล้วที่ไม่ต้องไปสร้างวิบากกรรมตรงนั้น และได้รู้ว่าเราต้องล้างความชิงชังกับคนที่ยังคิดว่ามีคู่ดีตามโลกๆ

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร
ตั้งจิตมั่นว่าจะอยู่เป็นอิสระจากบุคคล และอิสระจากกิเลสอื่นๆทั้งหมดทั้งสิ้นให้ได้ในสักวันไม่ชาตินี้ก็ชาติหน้าหรือชาติอื่นๆสืบไป ปัจจุบันยังมีความอยากเอาจากคนนั้นคนนี้อยู่บ้างก็ทุกข์หนักหนาอยู่แต่เมื่อพบอริยสัจ 4 ที่แท้จริงที่อาจารย์มาฝึกก็เชื่อมั่นว่าเราจะมีอิสระภาพแท้จริงได้อย่างแน่นอน

โสดดีหรือมีคู่ : แก่นศีล กล้าจน

นายแก่นศีล กล้าจน ชื่อเล่น เล็ก รู้จักแพทย์วิถีธรรม 10 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดว่ามีคู่มีคนดูแลเอาใจใส่ดี แต่จริงแล้วมีทั้งชอบทั้งชัง ตอนห่างกันก็ห่วงแต่อยู่มากไปก็ชังรำคาญด้วย อยากอยู่คนเดียวด้วย ตกลงมันเอาแน่ไม่ได้กลับไปกลับมาแต่ก็ยังคิดว่ามีคู่นั้นดีกว่าไม่มีคู่อยู่นั้นเอง แม้บางเวลาไม่มีคู่รู้สึกอิสระเสรีกว่าก็ตาม

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความมั่นใจว่าไม่มีคู่ดีกว่าอย่างแน่นอน การพึ่งตนเองได้เป็นความแข็งแกร่งไม่เป็นภาระต่อผู้อื่น ไม่เบียดเบียนคนที่มาคอยดูแลตนเองเป็นอิสระเสรี เบา สบายกว่าเข้าใจกรรม วิบากกรรมว่าจากชีวิตต้องการความสุขไม่ต้องการความทุกข์และความสุขแท้ๆ มิใช่การมีคู่ถือเป็นแค่มิติที่1 ที่ต่ำสุด แต่คือการไม่มีคู่นั้นเอง

แนวทางการปฎิบัติต่อไป คิดว่าเราควรเป็นมิตรที่ดีต่อกัน เคยเป็นคู่กันก็มาเป็นเพื่อนมาช่วยเหลือกันแบบไม่ต้องมีกาม มีแต่ความปรารถนาดีต่อกันช่วยเหลือเท่าที่ตนเองทำได้ด้วยใจไม่ทุกข์ ไม่ชอบ ไม่ชัง สิ่งนี้จะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับโลกเป็นทางสันติไม่เบียดเบียนทำร้ายกันเป็นผาสุกทุกชีวิต

โสดดีหรือมีคู่ : สำเริง สมอหมอบ

สำเริง สมอหมอบ ( นาง, ร้อยใจจน ) อายุ 59 ปี สมรส รู้จัก พวธ. มา 4 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เคยคิดว่าเป็นวงจรของชีวิตมนุษย์ที่เด็กเรียนหนังสือโตขึ้นทำงานแต่งงานสร้างครอบครัว เลี้ยงลูก ทำงานจนเกษียณ(รับราชการเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในสังคมตอนนั้น) แล้วก็แก่ และตาย จึงคิดว่าชีวิตมีเพียงเท่านั้นหรือแล้วที่เคยพบเจอบ่อยๆคือ ผู้ชายมักจะมีแฟนภรรยาหรือกิ๊กหลายคน แต่ผู้หญิงทำแบบนี้ไม่ได้

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
รู้ว่าเป็นวิบากกรรมร่วมกันถึงได้มาเจอกัน แล้วก็ต้องดูแลกันไปจนแก่เฒ่าและตายจากกันหรือมีอันต้องพลัดพรากจากกันไปตามวิบาก และเราต้องซื่อสัตย์ต่อกันเป็นมิตรต่อกัน พากเพียร ทำดี ละชั่ว และทำจิตใจไร้ทุกข์ จะช่วยให้วิบากนั้นๆลดน้อยลงได้และคิดว่าชีวิตคู่ การเลี้ยงลูกเป็นภาระที่ยากเป็นวิบากร่วมกันโดยแท้จริง ที่ต้องยอมรับและทำให้ดีที่สุด

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
การที่ได้แต่งงานแล้วและอยู่ร่วมกันได้คุยกันแบบตรงไปตรงมาว่าเราขอปฏิบัติพรหมจรรย์ เราจะอยู่ด้วยกันอย่างพรหม อย่างเพื่อน และเขาก็ควรปฏิบัติเหมือนกันไม่ควรจะนอกใจเพราะจะทำให้ศีลด่างพร้อยจะมีวิบาก เมื่อเขาเข้าใจและยอมรับได้จึงทำให้เราสามารถปฏิบัติอยู่ด้วยกันแบบพรหมได้ แล้วได้ให้แนวคิดกับลูกว่าการมีคู่นั้นเป็นความคิดไม่สัมมาทิฏฐิให้หนังสือไปอ่านเพื่อการดำรงชีพเรา

โสดดีหรือมีคู่ : แพรลายไม้ กล้าจน

แพรลายไม้ กล้าจน อายุ 45 ปี รู้จัก แพทย์วิถีธรรม มา 10 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
มองเห็นว่าการมีคู่เป็นทุกข์ มองว่าไม่ใช่สิ่งที่เราปรารถนา และไม่ชอบให้ใครมารักเราหรือมาชอบเรา เพราะรู้สึกรำคาญและไม่เป็นอิสระ มองว่าชีวิตคู่น่าเบื่อ การเป็นโสดมีอิสรภาพดี จะทำอะไรจะไปไหนมันสบายตัว ไม่ต้องมีพันธะไม่ต้องมาห่วงหน้าพะวงหลัง และรู้สึกว่าคนที่มีแฟนหรือมีคู่เป็นคนที่อ่อนแอ ไปดูถูกเหยียดหยามเขา และคิดว่าคนที่มีแฟนเพราะขาดเพื่อน ไม่มีคนคอยให้กำลังใจหรือคู่คิด การมีแฟนหรือมีคู่เป็นการยึดติดและผูกพันกันไม่มีที่สิ้นสุดน่าเบื่อ พึ่งพาตัวเองไม่ได้ แต่ลึก ๆ ก็อยากมีคนมาเอาเอาใจ แต่ไม่ต้องมาผูกมัดหรือยึดครองกัน ว่าคนนี้เป็นแฟนฉัน คือ อยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ถ้าไม่เรียกก็ไม่ต้องมาหา มันเหมือนเราจะเอาอย่างเดียวไม่สนใจฝ่ายตรงข้าม ทนเราไม่ไหวก็ไปซะไม่ได้ง้อให้มาชอบ ไม่แคร์ความรู้สึกใครเอาแต่ใจตัวเอง เอาความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ และไม่ยอมตกอยู่ใต้อำนาจหรือคำสั่งของใครเราต้องเป็นผู้นำ

หลังพบแพทย์วิถีธรรม ท่านมีความคิดเห็นอย่างไร?
หลังจากที่มาพบแพทย์วิถีธรรมความคิดเรื่องการมีคู่ครองยิ่งชัดเจนมากขึ้น ว่าคนที่เป็นโสดทำประโยชน์ได้มากกว่าคนที่มีคู่ครอง และมีอิสระภาพ พร้อมทั้งไม่ต้องแบกวิบากหรือต้องไปมีวิบากร่วมกันในเรื่องของความเป็นญาติ หรือการช่วยเหลือใด ๆ เราสามารถที่จะพรากเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะไม่มีการยึดติดใด ๆ ไม่มีการคาดหวังซึ่งกันและกัน ทั้งเขาและเราหรือใคร ๆ มันทำให้เราช่วยงานศาสนาหรือทำประโยชน์ได้อย่างมากมาย โดยที่เราไม่ต้องมีเวลามาทุกข์กับเรื่องเหล่านี้ เพราะโดยส่วนตัวก็คิดว่ามันไร้สาระอยู่แล้ว เราเคยเห็นคนที่อยู่รอบข้างเรามากมาย ที่มีทุกข์เพราะเรื่องคู่ รู้สึกว่าตัวเองโชคดี แต่สิ่งหนึ่งที่มันได้เพิ่มขึ้นมาก็คือ เมื่อก่อนเราจะไร้ซึ่งความเมตตา และดูถูกเหยียดหยามคนที่เขาอ่อนแอเรื่องของการมีคู่ หรือจำเป็นจะต้องไปมีคู่มันมีตัวรังเกียจมาก ว่าพวกนี้ไม่ดำรงตนเป็นคนโสดเป็นคนโง่เขลา แต่พอมาฟังอาจารย์เข้าใจทำให้เราเมตตาและเข้าใจว่า บางคนเขาเกิดมาเป็นคู่เวรคู่กรรมและมีวิบากต่อกัน จะให้เขามาคิดหรือมาหลุดวงโคจรง่าย ๆ เหมือนที่เราคิดมันก็ไม่ได้เพราะฉะนั้น ต้องเมตตาและให้กำลังใจคนที่มีคู่ครอง ให้เขาอยู่กันแบบพรหมแบบพี่น้อง ไม่ใช่อยู่กันแบบที่มีความยึดจะเอาซึ่งกันและกัน ถึงสามารถที่จะให้คำปรึกษาและพูดคุยหรือเข้าใจความรู้สึกของคนที่ทุกข์จากเรื่องนี้ได้ ก็ทำให้เราได้ช่วยเหลือผู้ที่เขาอยากจะพ้นทุกข์ตัวนี้ได้ด้วยเมตตามากขึ้น ซึ่งถ้าเป็นเมื่อก่อน ก่อนมาเจอแพทย์วิถีธรรมก็จะตีทิ้งและว่าเขาไปแรง ๆ อาจารย์เคยสอนว่า อย่าไปรังเกียจไม่ชอบสิ่งนั้น เพราะเราจะกลายไปเป็นแบบนั้น หรือไม่ก็คนใกล้ชิดเรา คนที่เรารักจะไปเป็นแบบที่เราไม่ชอบ มันชัดเจนเรื่องวิบากจึงเข้าใจและทำใจ และมองเห็นว่าการมีค฿่ครองก็เป็นเรื่องปกติสามัญของมนุษย์ปุถุชนที่ยังทุกข์ไม่ถึงที่สุดเขาก็จะยังไม่ยอมออกจากทุกข์นั้นช่วยได้ก็ช่วย ช่วยไม่ได้ก็วาง

ท่านมีการปฏิบัติต่อไปอย่างไร?
ก็ตั้งใจพากเพียรอยู่เป็นคนโสดให้ถึงที่สุด จนกว่าชีวิตจะหาไม่ในชาตินี้ แต่ก็ไม่ประมาท จะไม่เวียนกลับลงไปยกเว้นว่าถ้ามันมีวิบากจริง ๆ ก็จะยอมรับได้ แต่สิ่งหนึ่งที่เราเข้าใจได้ คือการที่เราดำรงตนอยู่ในหมู่มิตรดี สหายดี สังคม สิ่งแวดล้อม ที่เป็นองค์ประกอบดี อยู่ในแวดวงของคนที่ไม่ได้อยากจะมีคู่ครอง ก็จะทำให้เรารอดพ้นจากวิบากกรรมได้ หรือถ้ามีก็คงจะแค่เฉียด ๆ ทำให้เราได้ชดใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ และชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งถ้าโดยความตั้งใจ ก็คิดว่าจะช่วยงานศาสนาโดยการดำรงตนเป็นคนโสด และไม่ว่าจะเกิดมาอีกในชาติหน้าหรือชาติไหน ๆ ก็จะดำรงตนเป็นคนโสด ตั้งจิตแบบนี้มาตั้งนาน และตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว ก็คงมุ่งมั่นต่อไป แต่เราก็จะไม่ไปสร้างความผูกพันใด ๆ หรือก่อไม่วิบากใหม่ให้กับใคร หรือแม้นหากมีใครจะมาผูกพัน หรือรักใคร่กับเรา เราก็ต้องวางตัวให้เหมาะสม และต้องขอความช่วยเหลือจากเพื่อน ๆ หมู่มิตรดี ให้ช่วยกันป้องกันและตักเตือนกัน ไม่เปิดโอกาสให้เพศตรงข้าม หรือฝ่ายตรงข้ามได้เข้ามาอยู่ในรัศมี หรือองค์ประกอบที่จะทำให้เขาคิดได้ว่าเรามีใจให้กับเขา การพูดคุยกับเพศตรงข้ามก็จะพยายามไม่คุยตามลำพัง หรือคุยในที่ลับหูลับตา หรือหากมีความจำเป็นที่จะต้องพูดคุย ก็คุยแค่เรื่องกิจกรรมการงาน หรือเรื่องขอความช่วยเหลือกันโดยมีเพื่อนผู้หญิง หรือพยานหลักฐานอยู่กับเรา ไม่เปิดโอกาสให้อยู่ลำพังสองต่อสองเป็นอันขาด ไม่ว่าจะเพศเดียวกันหรือเพศตรงข้าม เพราะในสมัยนี้การวิปริตผิดเพศก็มีเยอะเหมือนกัน เพราะฉะนั้นตราบใดที่เรายังมีชีวิตอยู่ ก็ควรตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่เราไม่ไปสร้างความผูกพันใด ๆ กับใคร แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่ทำหน้าที่ ในสถานะที่เราเป็นอยู่เราต้องชัดเจนในหน้าที่ แต่เราไม่ได้มีใจผูกพันหรือยึดติด เช่น ลูกก็มีหน้าที่ดูแลพ่อแม่ แต่เราก็จะไม่ไปยึดติดว่าจะขาดซึ่งกันและกันไม่ได้ เป็นต้น ยังคบค้าสมาคมกับผู้คนได้แต่ถ้าศีลเรามั่นคงมันจะมีเกราะป้องกันได้ คิดว่ากิเลสตัวอื่น ๆ ก็น่าจะตายได้เร็วถ้าอยู่ในหมู่กลุ่ม เพราะกิเลสมันกลัวตาย เมื่อไหร่ก็ตามที่คิดจะแอบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ทำอะไรกับใครเป็นพิเศษนั่นแหละเรากำลังจะเสื่อมต้องรับและขอความช่วยเหลือจากเพื่อน
บัณฑิตพึงตั้งตนเป็นโสด ส่วนคนโง่ย่อมฝักใฝ่ในเมถุน

เรามาทำความรัก 10 มิติให้แก่โลกใบนี้ แล้วคุณจะเข้าใจชัดเจนว่า ที่ใดมีรักที่นั่นมีทุกข์ รักร้อยก็ทุกข์ร้อย ไม่รักก็ไม่ทุกข์
สาธุค่ะ

การตัดสินใจมีคู่ เกิดจากวิบากกรรมเก่าหรือไม่

การตัดสินใจมีคู่ เกิดจากวิบากกรรมเก่าหรือไม่

คำถาม : ถ้าจะตัดสินใจมีคู่ เกิดจากวิบากกรรมเก่าของเราหรือไม่ จะวางใจอย่างไร จึงจะไม่ขัดกับคำว่า กายนี้มีไว้เพื่อดับทุกข์ใจเท่านั้น

พระพุทธเจ้าบอกว่ามันเป็นบาป การมีคู่เป็นทุกข์ และทุกข์ที่สุดในโลกด้วยนะ “เกิดจากวิบากเก่าของเราหรือไม่” ตัดสินใจมีคู่ก็วิบากใหม่นี่แหละ ตัดสินใจใหม่นี่แหละ บางทีมันก็ไม่ได้มีเก่าเลย ไปตัดสินใจใหม่นี่แหละ หรือบางทีมันอาจจะมีวิบากกรรมเก่ามาปนด้วย แต่กรรมใหม่น่ะแน่นอน วิบากกรรมเก่าอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ใหม่นี่แน่ ๆ เลย

ไปตัดสินใจมีคู่ทำไม บาปหนักนะ ทุกข์หนักนะ จะบอกให้ มันไปเหนี่ยวนำให้คนอื่นเป็นตามด้วยนะ จะทุกข์หนักนะ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า คนที่เขามีกันแล้ว เขาก็พูดกันมา “โอ๊ย อย่าไปหาเรื่อง อย่าไปหาเรื่อง ตาย ๆ  ๆ  หาเรื่องจริง ๆ เลย มันทุกข์หนักนะ ไม่ใช่เล่น ๆ นะ” พระพุทธเจ้าบอกว่า บัณฑิตพึงประพฤติตนเป็นโสด ส่วนคนโง่!! (ด่าแรง ๆ เลยนะ) ฝักใฝ่ในคู่ครองย่อมเศร้าหมอง  มันจะหมองแรงเลยนะ มันจะไปทำดีไม่ได้ดั่งใจเราหมายนะ เราอยากไปทำดีตรงนั้นตรงนี้จะไปไม่ได้ดั่งใจเราหมาย คุณจะไม่ได้สิ่งดี ๆ ดั่งใจคุณหมายเยอะแยะไปหมดเลย แล้วต้องไปจมกับเรื่องไร้สาระเต็มไปหมดเลยนะ คุณอยากจะจมอย่างนั้นก็เชิญนะ แต่อย่าไปเลย มันอันตราย

นี่คำถามเขาว่า ถ้าจะตัดสินใจมีคู่ เกิดจากวิบากกรรมเก่าของเราหรือไม่ จะวางใจอย่างไร จึงจะไม่ขัดกับคำว่า กายนี้มีไว้เพื่อดับทุกข์ใจเท่านั้น ด้วยความเคารพยิ่ง , เอ้า! ถ้าเคารพก็ทำตามอาจารย์นี่แหละ อยู่เป็นโสดไป เคารพยังไงวะ!? เคารพแล้วก็ทำกลับหัวกับที่เราสอน เคารพยังไง? ประหลาด ๆ ก็แล้วแต่นะ ถ้าไม่มีคู่ได้ก็ดี ถ้ามันอดไม่ได้ มันมีกิเลส มีเวรมีกรรม ก็แล้วไป ก็ต้องไปทุกข์นั่นแหละ กายนี้ก็มีไว้เพื่อสร้างทุกข์เท่านั้นแหละ ถ้าไปมีคู่ก็ทุกข์อีกยาว มันจะยาวอีกหลายชาตินะ อย่าประมาทนะ มันจะอีกหลายชาติเลย อย่าไปหาเรื่องเลยน่า เคยมีคู่กันมาตั้งไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้ว การมีเป็นทุกข์ (พระพุทธเจ้าว่าอย่างนั้น) มีไปมันก็เป็นห่วง 1.ถ้าดีก็เป็นห่วง กลัวจะไม่ได้ดีอย่างนู้นอย่างนี้ 2. ถ้าไม่ดีก็ทุกข์ ทำไมทำไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ มันเป็นทุกข์นะ แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นอีก อยากให้เขาได้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ พอเขาไม่ได้ดีแบบที่คุณมุ่งหมาย ไม่ทำดีแบบที่คุณมุ่งหมาย คุณเอ๋ย…แล้วคุณจะทุกข์ใจ

ทุกข์คราวนี้ละโอ้โฮแย่เลย 1.เขาจะไม่ทำดีอย่างที่คุณมุ่งหมาย ไม่ได้ดีที่คุณมุ่งหมาย หรือมีวิบากร้ายแง่นั้นเชิงนี้เข้ามาในชีวิตเขาก็ทุกข์ 2.ต่อให้เขาเป็นคนดีคุณก็จะทุกข์ กลัวเขาจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ กลัวเขาจะเป็นอันตราย กลัวจะไม่ได้สภาพที่ดี กลัวเขาจะพลัดพรากจากไป มันก็มีแต่ทุกข์ทั้งนั้นแหละ มีแต่ทุกข์และทุกข์และทุกข์ ตอบไว้เท่านี้ก่อนแล้วกัน สรุปเกิดจากวิบากเก่าของเราหรือไม่ ก็ตอบว่าวิบากใหม่เป็นหลักเลยแหละ วิบากใหม่ที่ตัดสินใจจะมีหรือไม่มีนี่แหละ ถ้าตัดสินใจจะมีคู่นี่เป็นวิบากใหม่ บาปหนักเลยแหละ แต่ถ้าตัดสินใจอยู่เป็นโสดก็บุญหนักเลย บุญใหญ่เลย , บาปใหญ่กับบุญใหญ่นะ เลือกเอา จะไปทางไหน บาปใหญ่ กับ บุญใหญ่ อาจารย์ตอบได้เท่านี้ เวลาน้อย ๆ สั้น ๆ ก็ตอบได้เท่านี้

26 มิถุนายน 2562 , ค่ายสุขภาพและพระไตรปิฎกแพทย์วิถีธรรม สวนป่านาบุญ๑

ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)