โสดดีหรือมีคู่ : แก่นเกื้อ นาวาบุญนิยม

แก่นเกื้อ นาวาบุญนิยม ( ต่อน ) อายุ 60 ปี สถานะ โสดสนิท รู้จัก พวธ. มา 14 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
ไม่คิดแต่งงานมาก่อนอยู่แล้วเพราะเห็นทุกข์จากชีวิตคนคู่อื่นๆ

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
ยิ่งชัดในความทุกข์ของคนคู่

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
ปฏิบัติศีลพรหมจรรย์ ตัดกิเลส เพิ่มศีล เพิ่มตบะ ลด ละ กิเลสในอาหาร เลิกกินขนมหวาน ล้างความชอบชังในจิตวิญญาณมากที่สุด ลดความทุกข์ในจิตวิญญาณมากไปพอสมควร ยกระดับจิตวิญญาณขึ้นมาจากกองทุกข์พอประมาณในชีวิตที่เหลืออยู่

โสดดีหรือมีคู่ : สำเริง สมอหมอบ

สำเริง สมอหมอบ ( นาง, ร้อยใจจน ) อายุ 59 ปี สมรส รู้จัก พวธ. มา 4 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นเกี่ยวกับการอยู่เป็นโสดหรือมีคู่อย่างไร?
เคยคิดว่าเป็นวงจรของชีวิตมนุษย์ที่เด็กเรียนหนังสือโตขึ้นทำงานแต่งงานสร้างครอบครัว เลี้ยงลูก ทำงานจนเกษียณ(รับราชการเป็นที่นิยมและได้รับการยอมรับในสังคมตอนนั้น) แล้วก็แก่ และตาย จึงคิดว่าชีวิตมีเพียงเท่านั้นหรือแล้วที่เคยพบเจอบ่อยๆคือ ผู้ชายมักจะมีแฟนภรรยาหรือกิ๊กหลายคน แต่ผู้หญิงทำแบบนี้ไม่ได้

หลังพบแพทย์วิถีธรรมมีความคิดเห็นอย่างไร?
รู้ว่าเป็นวิบากกรรมร่วมกันถึงได้มาเจอกัน แล้วก็ต้องดูแลกันไปจนแก่เฒ่าและตายจากกันหรือมีอันต้องพลัดพรากจากกันไปตามวิบาก และเราต้องซื่อสัตย์ต่อกันเป็นมิตรต่อกัน พากเพียร ทำดี ละชั่ว และทำจิตใจไร้ทุกข์ จะช่วยให้วิบากนั้นๆลดน้อยลงได้และคิดว่าชีวิตคู่ การเลี้ยงลูกเป็นภาระที่ยากเป็นวิบากร่วมกันโดยแท้จริง ที่ต้องยอมรับและทำให้ดีที่สุด

มีแนวทางการปฎิบัติต่อไปอย่างไร?
การที่ได้แต่งงานแล้วและอยู่ร่วมกันได้คุยกันแบบตรงไปตรงมาว่าเราขอปฏิบัติพรหมจรรย์ เราจะอยู่ด้วยกันอย่างพรหม อย่างเพื่อน และเขาก็ควรปฏิบัติเหมือนกันไม่ควรจะนอกใจเพราะจะทำให้ศีลด่างพร้อยจะมีวิบาก เมื่อเขาเข้าใจและยอมรับได้จึงทำให้เราสามารถปฏิบัติอยู่ด้วยกันแบบพรหมได้ แล้วได้ให้แนวคิดกับลูกว่าการมีคู่นั้นเป็นความคิดไม่สัมมาทิฏฐิให้หนังสือไปอ่านเพื่อการดำรงชีพเรา