การตัดสินใจมีคู่ เกิดจากวิบากกรรมเก่าหรือไม่

การตัดสินใจมีคู่ เกิดจากวิบากกรรมเก่าหรือไม่

คำถาม : ถ้าจะตัดสินใจมีคู่ เกิดจากวิบากกรรมเก่าของเราหรือไม่ จะวางใจอย่างไร จึงจะไม่ขัดกับคำว่า กายนี้มีไว้เพื่อดับทุกข์ใจเท่านั้น

พระพุทธเจ้าบอกว่ามันเป็นบาป การมีคู่เป็นทุกข์ และทุกข์ที่สุดในโลกด้วยนะ “เกิดจากวิบากเก่าของเราหรือไม่” ตัดสินใจมีคู่ก็วิบากใหม่นี่แหละ ตัดสินใจใหม่นี่แหละ บางทีมันก็ไม่ได้มีเก่าเลย ไปตัดสินใจใหม่นี่แหละ หรือบางทีมันอาจจะมีวิบากกรรมเก่ามาปนด้วย แต่กรรมใหม่น่ะแน่นอน วิบากกรรมเก่าอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ใหม่นี่แน่ ๆ เลย

ไปตัดสินใจมีคู่ทำไม บาปหนักนะ ทุกข์หนักนะ จะบอกให้ มันไปเหนี่ยวนำให้คนอื่นเป็นตามด้วยนะ จะทุกข์หนักนะ คนในอยากออก คนนอกอยากเข้า คนที่เขามีกันแล้ว เขาก็พูดกันมา “โอ๊ย อย่าไปหาเรื่อง อย่าไปหาเรื่อง ตาย ๆ  ๆ  หาเรื่องจริง ๆ เลย มันทุกข์หนักนะ ไม่ใช่เล่น ๆ นะ” พระพุทธเจ้าบอกว่า บัณฑิตพึงประพฤติตนเป็นโสด ส่วนคนโง่!! (ด่าแรง ๆ เลยนะ) ฝักใฝ่ในคู่ครองย่อมเศร้าหมอง  มันจะหมองแรงเลยนะ มันจะไปทำดีไม่ได้ดั่งใจเราหมายนะ เราอยากไปทำดีตรงนั้นตรงนี้จะไปไม่ได้ดั่งใจเราหมาย คุณจะไม่ได้สิ่งดี ๆ ดั่งใจคุณหมายเยอะแยะไปหมดเลย แล้วต้องไปจมกับเรื่องไร้สาระเต็มไปหมดเลยนะ คุณอยากจะจมอย่างนั้นก็เชิญนะ แต่อย่าไปเลย มันอันตราย

นี่คำถามเขาว่า ถ้าจะตัดสินใจมีคู่ เกิดจากวิบากกรรมเก่าของเราหรือไม่ จะวางใจอย่างไร จึงจะไม่ขัดกับคำว่า กายนี้มีไว้เพื่อดับทุกข์ใจเท่านั้น ด้วยความเคารพยิ่ง , เอ้า! ถ้าเคารพก็ทำตามอาจารย์นี่แหละ อยู่เป็นโสดไป เคารพยังไงวะ!? เคารพแล้วก็ทำกลับหัวกับที่เราสอน เคารพยังไง? ประหลาด ๆ ก็แล้วแต่นะ ถ้าไม่มีคู่ได้ก็ดี ถ้ามันอดไม่ได้ มันมีกิเลส มีเวรมีกรรม ก็แล้วไป ก็ต้องไปทุกข์นั่นแหละ กายนี้ก็มีไว้เพื่อสร้างทุกข์เท่านั้นแหละ ถ้าไปมีคู่ก็ทุกข์อีกยาว มันจะยาวอีกหลายชาตินะ อย่าประมาทนะ มันจะอีกหลายชาติเลย อย่าไปหาเรื่องเลยน่า เคยมีคู่กันมาตั้งไม่รู้กี่ภพกี่ชาติแล้ว การมีเป็นทุกข์ (พระพุทธเจ้าว่าอย่างนั้น) มีไปมันก็เป็นห่วง 1.ถ้าดีก็เป็นห่วง กลัวจะไม่ได้ดีอย่างนู้นอย่างนี้ 2. ถ้าไม่ดีก็ทุกข์ ทำไมทำไม่ดีอย่างนู้นอย่างนี้ มันเป็นทุกข์นะ แล้วก็ยึดมั่นถือมั่นอีก อยากให้เขาได้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ พอเขาไม่ได้ดีแบบที่คุณมุ่งหมาย ไม่ทำดีแบบที่คุณมุ่งหมาย คุณเอ๋ย…แล้วคุณจะทุกข์ใจ

ทุกข์คราวนี้ละโอ้โฮแย่เลย 1.เขาจะไม่ทำดีอย่างที่คุณมุ่งหมาย ไม่ได้ดีที่คุณมุ่งหมาย หรือมีวิบากร้ายแง่นั้นเชิงนี้เข้ามาในชีวิตเขาก็ทุกข์ 2.ต่อให้เขาเป็นคนดีคุณก็จะทุกข์ กลัวเขาจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ กลัวเขาจะเป็นอันตราย กลัวจะไม่ได้สภาพที่ดี กลัวเขาจะพลัดพรากจากไป มันก็มีแต่ทุกข์ทั้งนั้นแหละ มีแต่ทุกข์และทุกข์และทุกข์ ตอบไว้เท่านี้ก่อนแล้วกัน สรุปเกิดจากวิบากเก่าของเราหรือไม่ ก็ตอบว่าวิบากใหม่เป็นหลักเลยแหละ วิบากใหม่ที่ตัดสินใจจะมีหรือไม่มีนี่แหละ ถ้าตัดสินใจจะมีคู่นี่เป็นวิบากใหม่ บาปหนักเลยแหละ แต่ถ้าตัดสินใจอยู่เป็นโสดก็บุญหนักเลย บุญใหญ่เลย , บาปใหญ่กับบุญใหญ่นะ เลือกเอา จะไปทางไหน บาปใหญ่ กับ บุญใหญ่ อาจารย์ตอบได้เท่านี้ เวลาน้อย ๆ สั้น ๆ ก็ตอบได้เท่านี้

26 มิถุนายน 2562 , ค่ายสุขภาพและพระไตรปิฎกแพทย์วิถีธรรม สวนป่านาบุญ๑

ดร.ใจเพชร กล้าจน (หมอเขียว)

โสดดีหรือมีคู่ : อรุณรัตน์ ไกรมาศศิริ

น.ส. อรุณรัตน์ ไกรมาศศิริ ชื่อเล่นว่า หม่วย มีชื่อทางธรรมว่า พิมพ์ผ่องศีล อายุ 53 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ สวนป่านาบุญ ๑ สถานภาพ โสดสนิท รู้จักและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมา 7 ปี

ก่อนที่จะมาพบแพทย์วิถีธรรม มีความคิดว่าโสดก็ได้ มีคู่ก็ได้ แต่ไม่เคยดิ้นรนที่จะหาคู่ แต่เพื่อน ๆ ที่สนิท มีความเห็นว่า เราควรมีคู่ จึงแนะนำให้รู้จักกับผู้ชายที่คิดว่าเหมาะสม หลังจากที่นัดกินข้าวเพื่อทำความรู้จัก 1 ครั้ง ตัวเองก็รู้เลยว่า เป็นคนที่ไม่ชอบมีคู่ รู้สึกว่ามันไม่ใช่ธรรมชาติของเรา เวลาอยู่กับคนที่เราไม่คุ้นเคย ไม่ได้มีความรู้สึกว่าคู่จะสร้างความมั่นคงปลอดภัยให้เรา แต่รู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ไม่เป็นธรรมชาติ

หลังจากได้พบและศึกษาจากแพทย์วิถีธรรม มีความมั่นใจในเรื่องการอยู่เป็นโสดมากขึ้น และดีใจที่เลือกการอยู่เป็นโสด มีความรู้เพิ่มขึ้นว่า การมีคู่เป็นวิบากต่อตนเอง สร้างบ่วงให้ตนเอง ในมุมของการปฏิบัติตนให้อยู่เป็นโสด คุณหม่วยแสดงความเห็นว่า “จริง ๆ ค่อนข้างมั่นใจว่า เราจะเป็นโสดแน่นอน” อุตส่าห์อยู่เป็นโสดมาจนอายุ 53 ปีแล้ว คิดว่าไม่เลือกชีวิตคุ่แน่นอน แต่ก็ไม่ประมาท ถ้ามีชายหนุ่มที่ดูเหมือนเขาจะมาตีสนิทมากเกินไป เราก็จะทำตัวห่างเหิน ตัดไฟตั้งแต่ต้นลม

โสดดีหรือมีคู่ : ธานินทร์ มุ่งชมกลาง

นายธานินทร์ มุ่งชมกลาง ชื่อเล่นว่า บอย มีชื่อทางธรรมว่า เสบียงบุญ อายุ 32 สถานภาพโสด รู้จักกับแพทย์วิถีธรรมมาประมาณ 4-5 ปี

ก่อนพบแพทย์วิถีธรรมก็เห็นว่า คนส่วนมากบอกกัน สอนกัน ว่าโตไปประมาณหนึ่งก็จะหาคู่แล้วก็เดินจูงมือกัน ทำพฤติกรรมเหมือนว่ามีความสุขมากในการมีคู่ มาโชว์ มาอวดกัน ผมก็คิดว่าน่าจะดี …ซึ่งก็โดนปลูกฝังความคิดแบบนั้นมา…(ว่ามันสุขมาก…)

ต่อมาได้พบและศึกษากับแพทย์วิถีธรรมก็ได้รู้ความจริงเพิ่มขึ้นว่าตอนที่คบกัน ก็ทำเหมือนจะสุข(คล้าย ๆ ) แต่ตอนที่คบกันจริงแล้วก็มีความจริงที่จะทำให้เราเกิดทุกข์ได้ต่าง ๆ นา ๆ หลากหลายสาเหตุ เช่น เมื่อรักหรือผูกพันกันมาก เวลาพลัดพรากจากกันก็จะรู้สึกทุกข์ ตอนที่ทะเลาะกัน ตอนที่ไม่เข้าใจกันมันก็ทุกข์ เมื่อคาดหวังหรือยากได้สิ่งใดแล้วไม่ได้ก็ทุกข์ ซึ่งความจริงก็จะมีทั้งสุขและทุกข์ ถ้าเราอยากมากก็จะทุกข์มาก

การปฏิบัติตนในตอนนี้ก็คือ พยายามที่จะฝึกตนอยู่เป็นโสดให้ได้มากที่สุด เท่าที่จะทำได้จริง…ซึ่งรู้การอยู่เป็นโสด จะทำให้การเดินทาง การกิน การอยู่ การนอนง่ายขึ้น ชีวิตมีความพอเพียง และเรียบง่ายมากขึ้น

โสดดีหรือมีคู่ : วรางคณา ไตรยสุทธิ์

น.ส. วรางคณา ไตรยสุทธิ์ ชื่นเล่น โอ๋ ชื่อทางธรรม พุทธพรฟ้า อายุ 32 ปี สังกัดที่บำเพ็ญ สวนป่านาบุญ ๑ สถานภาพ โสดสนิท เคยลองคบเพื่อนสนิทที่เป็นผู้ชาย 3 ได้คนละประมาณ 1-2 เดือน สุดท้ายก็ขอเป็นเพื่อนกับเขาดีกว่า

รู้จักกับแพทย์วิถีธรรมและปฏิบัติตามหลักแพทย์วิถีธรรมมา 10 ปี ก่อนมาพบแพทย์วิถีธรรมมีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องคนโสดและคนมีคู่ว่า ตอนเด็กคิดว่า “ขออยู่เป็นโสด ไม่มีคู่ไปทุกชาติ” แต่พอวัยรุ่นเห็นเพื่อนมีแฟนก็คิดว่า “น่าลองดู” แต่พอลองคบกับคนที่มาจีบ เราถือว่าเป็นเพื่อนสนิท แต่เขาจะพยายามเข้ามาควบคุมให้เราทำตามใจเขา แล้วก็ไปจีบผู้หญิงคนอื่น (คบซ้อน) จึงขอกลับไปเป็นเพื่อนกันดีกว่า จึงทำให้เราอยากหาคำตอบของความรักที่แท้จริง พอดีได้อ่านหนังสือรักดั่งพรหม คือการเป็นคู่ เลือกคู่ที่ดีจนถึงที่สุด ควรรักดั่งพรหมจึงจะเป็นรักที่แท้จริง ไม่ผูกมัด ผูกพันในจิตวิญญาณ

พอมาศึกษากับแพทย์วิถีธรรม จึงทำให้ชัดเจนมากขึ้น ในการที่จะใช้ชีวิตเป็นคนโสดที่มีความผาสุกได้อย่างสบายใจ ตรงตามที่ได้เคยอ่านหนังสือของพ่อท่านสมณะโพธิรักษ์ เรื่องความรัก 10 มิติ ที่ผู้หญิงกับผู้ชายไม่จำเป็นต้องรักกันแล้วอยู่เป็นคู่ เป็นแฟน หรือแต่งงานกัน ซึ่งเราสามารถให้ความรักได้กับทุกคนได้อย่างสบายใจ อย่างไม่มีเงื่อนไขให้ใจเป็นทุกข์

ในด้านการปฏิบัติ จะขอตั้งจิตว่า “ขอไม่มีคู่ทุกชาติไป” เหมือนเดิม และอ่านอาการในใจตลอดเวลาที่ต้องบำเพ็ญทำงานร่วมกับผู้ชายหรือแม้กระทั่งผู้หญิงด้วยกันเองก็ตาม เพื่อระวังการหลงชอบ จนกลายเป็นความยึดติด เป็นคู่กันในจิตวิญญาณ ถ้ามีคนมาชอบที่ดูเหมือนจะไปทางคนคู่(เชิงชู้สาว) ก็จะบอกเขาตั้งแต่แรกว่าเราไม่ต้องการมีแฟนนะ เราไม่ต้องการแต่งงานนะ เป็นเพื่อนกันดีกว่า ไม่ต้องมีวิบากร้ายต่อกัน ทำให้ยังสามารถอยู่เป็นโสดได้อย่างสบายใจ ไม่เดือดร้อนที่จะต้องมีคู่ ไม่อิจฉา ไม่เดือดร้อน ไม่ถือสาคนที่มีคู่ แต่ก็เห็นใจ เข้าใจ และปรารถนาให้เขาได้เข้าใจทุกข์ของการมีคู่แล้วออกจากทุกข์นั้นให้ได้เร็ว ๆ ก็ดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับแต่ละท่านเลือกเอาเอง แต่เรามั่นใจในการเป็นโสดแล้วว่าผาสุกกว่าการมีคู่แน่นอน

โสดดีหรือมีคู่ ลักขณา วรพงศ์พัฒน์

นางสาว ลักขณา วรพงศ์พัฒน์ หรือคุณเอ๊า มีชื่อทางธรรมว่า “บุญแพงค่า” อายุ 51 ปี สถานะโสดสนิท โสดมาอย่างยาวนาน และตั้งใจที่จะอยู่เป็นโสดต่อไป ศึกษาแพทย์วิถีธรรมมา 10 ปี

ก่อนมาพบกับแพทย์วิถีธรรม คุณลักขณาคิดว่า การมีคู่นั้นดี เป็นชีวิตที่สมบูรณ์แบบ มีความสุข แต่หลังจากที่มาพบแพทย์วิถีธรรมก็ได้ความรู้ว่า บัณฑิตพึงตั้งตนเป็นโสด ความโสดเป็นสุขอย่างยิ่ง รู้สึกแบบว่า โอ้โห! เราโชคดีมาก ๆ ที่ได้มาพบอาจารย์ เปิดตาให้สว่าง ได้พบความสุขจริง ความอิสระให้ชีวิตได้ทำประโยชน์ให้ตนและช่วยเหลือผู้อื่น ไม่ต้องหลงในบ่วงกรรมชีวิตคู่

ในส่วนของการปฏิบัติ คุณลักขณาตั้งใจที่จะตั้งตนอยู่บนความไม่ประมาท เพราะต้องพยายามลดกิเลส กาม ความหลง เนื่องจากได้เห็นผู้ปฏิบัติธรรมคร่ำเคร่งก็ยังหลงมีวิบากไปใช้ชีวิตคู่ จะทำขณะปัจจุบัน ลดการเพ่งโทษ ฝึกฝน พากเพียร อดทน สู้ ๆ